5 อันดับ Switcher อุปกรณ์สลับภาพสัญญาณวิดิโอ มืออาชีพ

5 อันดับ Switcher อุปกรณ์สลับภาพสัญญาณวิดิโอ มืออาชีพ

แล้ว Switcher คืออะไร?

หากเราพูดถึงคำว่า "Switcher" โดยทั่วไปแล้วจะหมายถึงอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถสลับหรือเปลี่ยนแปลงระหว่างสิ่งของหลายๆ อย่างได้ง่ายขึ้น โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการเปลี่ยนแปลงแหล่งจ่ายไฟหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ

เช่น เครื่อง Switcher สามารถช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อหลายๆ อุปกรณ์กับหน้าจอเดียวกันได้ และสามารถสลับการแสดงผลของแต่ละอุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นสัญญาณหรือถอดปลั๊กออกจากหน้าจอ เครื่อง Switcher ยังสามารถใช้สลับหรือเปลี่ยนแปลงแหล่งจ่ายไฟหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้โดยอัตโนมัติหรือด้วยการควบคุมผ่านส่วนควบคุมที่มีอยู่บนอุปกรณ์ด้วย

อย่างไรก็ตาม การใช้คำว่า "Switcher" อาจมีความหมายที่แตกต่างกันไปตามบริบทและอุปกรณ์ที่เรากำลังพูดถึง ดังนั้นหากคุณมีความคิดหรือคำถามเฉพาะเกี่ยวกับ Switcher ในบริบทที่แน่นอน โปรดระบุมาเพิ่มเติมเพื่อให้ผมสามารถช่วยอธิบายได้ถูกต้องและชัดเจนขึ้นครับ

แล้ว Switcher มีโยชน์ยังไงในการใช้งาน

การใช้งาน Switcher มีประโยชน์สูงสุดในสถานการณ์ที่ต้องการสลับหรือเปลี่ยนแปลงระหว่างอุปกรณ์หลายๆ อย่างเช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับหลายๆ อุปกรณ์อื่นๆ เช่น หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็น HDMI หรือ VGA, โปรเจ็คเตอร์, DVD Player, เครื่องเสียง และอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสายเชื่อมต่อหรือถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์อื่นเพื่อเปลี่ยนเส้นทางการส่งสัญญาณ

นอกจากนี้ Switcher ยังช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความสะดวกในการจัดการระบบอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีการใช้งานร่วมกันในองค์กรหรือบ้านเรา เช่น การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องกับโปรเจ็คเตอร์ในห้องประชุม หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ ตัวกับหน้าจอโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสายเชื่อมต่อและถอดปลั๊กออกจากอุปกรณ์เพื่อเปลี่ยนเส้นทางการส่งสัญญาณ

สุดท้าย Switcher ยังช่วยประหยัดพื้นที่และลดความซับซ้อนของการติดตั้งระบบด้วย เนื่องจากเราสามารถใช้อุปกรณ์ Switcher ในการสลับหรือเปลี่ยนแปลงระหว่างอุปกรณ์หลายๆ ตัวได้โดยที่ไม่ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์หลายๆ

แล้วการเลือกใช้อุปกรณ์ Switcher ควรเลือกยังไง ? 

การเลือกอุปกรณ์ Switcher ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของผู้ใช้งาน โดยสามารถพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้

1. จำนวนของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ: ผู้ใช้งานควรเลือก Switcher ที่มีจำนวนพอเหมาะกับจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ โดยมีการเชื่อมต่อให้เหมาะสมและสามารถรองรับได้กับทุกชนิดของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ

2. ประเภทของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ: ผู้ใช้งานควรเลือก Switcher ที่รองรับประเภทของอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เช่น HDMI, VGA, DisplayPort, Audio, USB หรือ RS232 เป็นต้น

3. ความสามารถในการส่งสัญญาณ: ผู้ใช้งานควรเลือก Switcher ที่สามารถส่งสัญญาณได้ระยะไกลๆ และรองรับความละเอียดของภาพและเสียงที่ต้องการ

4. ความสามารถในการควบคุม: ผู้ใช้งานควรเลือก Switcher ที่มีความสามารถในการควบคุมการเชื่อมต่อผ่านระบบรีโมท หรือโปรแกรมควบคุมผ่านเครือข่าย

5. ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต: ผู้ใช้งานควรเลือก Switcher จากผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือและความเป็นเลิศในการผลิตอุปกรณ์ Switcher

6. ราคา: ผู้ใช้งานควรพิจารณาตรงกับงบประมาณที่มีอยู่ โดยการเลือก Switcher ที่มีราคาเหมาะสมและคุ้มค่ากับความสามารถของอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้เสียเงินเกินจริง หรือเลือกเกินความจำเป็น โดยสามารถเปรียบเทียบราคาและคุณสมบัติของ Switcher จากผู้ผลิตต่างๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้ดียิ่งขึ้น

7. การติดตั้งและการใช้งาน: ผู้ใช้งานควรพิจารณาว่า Switcher ที่ต้องการจะเลือกนั้นง่ายต่อการติดตั้งและใช้งานหรือไม่ โดยเลือกอุปกรณ์ที่ไม่ยุ่งยากและสามารถใช้งานได้สะดวกเพื่อลดความยุ่งยากในการใช้งาน

8. ความคงทนทาน: ผู้ใช้งานควรพิจารณาความทนทานของ Switcher ว่าสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหาหรือไม่ โดยเลือกอุปกรณ์ที่มีความคงทนทานสูงและสามารถใช้งานได้เป็นเวลานาน

9. การรับประกัน: ผู้ใช้งานควรพิจารณาเลือก Switcher ที่มีการรับประกันสินค้าจากผู้ผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถรับการบริการหลังการขายได้ตลอดเวลา และหากเกิดปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

10. ความเป็นไปได้ในการอัพเกรด: ผู้ใช้งานควรพิจารณาว่า Switcher ที่เลือกนั้นสามารถอัพเกรดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมในอนาคตได้หรือไม่ โดยเลือกอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการอัพเกรดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถตามความต้อง

ลักษณ์การใช้งานพื้นฐานของ Switcher เป็นอย่างไร?

ลักษณะการใช้งานของ Switcher จะขึ้นอยู่กับการออกแบบของอุปกรณ์แต่ละรุ่น แต่ส่วนมากจะมีลักษณะการใช้งานที่คล้ายคลึงกันดังนี้

1. การเชื่อมต่อ: ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ กับ Switcher ได้ทันที เช่น คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์ IoT อื่น ๆ

2. การเปิด/ปิดพอร์ต: ผู้ใช้งานสามารถเปิด/ปิดพอร์ตที่ต้องการใช้งานได้ตามต้องการ โดยปกติแล้ว Switcher จะมีสวิตช์หรือปุ่มกดเพื่อควบคุมการเปิด/ปิดพอร์ต

3. การสลับเชื่อมต่อ: ผู้ใช้งานสามารถสลับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ โดยเลือกพอร์ตที่ต้องการใช้งานและกดสลับเพื่อเปลี่ยนการเชื่อมต่อ

4. การตรวจสอบสถานะการทำงาน: ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของ Switcher ได้ผ่านหน้าจอหรือแสดงผล LED ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์

5. การกำหนดค่า: ผู้ใช้งานสามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ เช่น ค่าความเร็วในการสื่อสาร, การกำหนด VLAN และอื่น ๆ

6. การจัดการความปลอดภัย: Switcher มักมีฟังก์ชั่นการจัดการความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น การกำหนดรหัสผ่าน
   
   

ได้ความรู้เกี่ยวกับ Switcher ไปแล้ว วันนี้ Icamplus ขอแนะนำ 5 อันดับ

1. Roland V-60HD
2. Roland V1-HD
3. Roland V-02HD
4. Lumentek EZ-PRO VS4
5. AVmatrix HVS0403U

สำหรับผู้ใช้งาน ระดับเริ่มต้น-ระดับกลาง งั้นเรามาเริ่มกันเลย

1.Switcher Roland V-60HD อุปกรณ์สลับภาพ

Roland V-60HD เป็นอุปกรณ์ Mixer/ Switcher แบบ all-in-one ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างงานสตรีมมิ่ง, การถ่ายทอดสด, การบันทึกวิดีโอและอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายและมีคุณภาพสูง

สำหรับสเปคของ Roland V-60HD มีดังนี้

• มีช่องเสียบกล้องสำหรับการเชื่อมต่อ HDMI, RGB/Component, และ Composite
• มีฟังก์ชั่นการควบคุมการเปิด/ปิดภาพ (DSK) สำหรับการแสดงผลต่างๆ เช่น ตัวอักษร, โลโก้, ภาพเคลื่อนไหว
• มีฟังก์ชั่น Picture-in-picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงวิดีโอสองแห่งพร้อมกันได้
• มีฟังก์ชั่นการควบคุมเสียง รวมถึงการปรับระดับเสียงในแต่ละช่องเสียง และการปรับระดับเสียงรวม
• มีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอได้ทั้งเฉพาะเสียงหรือภาพและเสียงพร้อมกัน
• มีส่วนติดตั้งเพื่อเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตผ่านแอพพลิเคชั่น Roland's free VR Remote เพื่อควบคุมการสตรีมมิ่งผ่านอินเทอร์เน็ตได้

Roland V-60HD เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องมือในการสร้างงานสตรีมมิ่งหรือการถ่ายทอดสดที่มีความสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

คุณสมบัติการใช้งานของ Switcher Roland V-60HD

Roland V-60HD เป็นอุปกรณ์ Mixer/ Switcher แบบ all-in-one ที่มีความสามารถในการควบคุมการแสดงภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีคุณสมบัติการใช้งานดังนี้

1. การเชื่อมต่อกล้อง

• Roland V-60HD มีช่องเสียบกล้องสำหรับการเชื่อมต่อ HDMI, RGB/Component, และ Composite
• สามารถเชื่อมต่อกล้องได้สูงสุด 4 กล้อง และสลับระหว่างกันได้โดยอัตโนมัติหรือด้วยการกดปุ่มตามต้องการ

2. ฟังก์ชั่นการควบคุมการเปิด/ปิดภาพ (DSK)

• มีฟังก์ชั่นการควบคุมการแสดงผลต่างๆ เช่น ตัวอักษร, โลโก้, ภาพเคลื่อนไหว โดยใช้ฟังก์ชั่นการเปิด/ปิดภาพ (DSK)
• มีฟังก์ชั่น Key, PinP, WIPE, Dissolve, และยังสามารถตั้งค่าการแสดงผลเองได้

3. ฟังก์ชั่น Picture-in-picture (PIP)

• มีฟังก์ชั่น Picture-in-picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงวิดีโอสองแห่งพร้อมกันได้
• สามารถปรับขนาดและตำแหน่งของ PIP ได้ตามต้องการ

4. การควบคุมเสียง

• มีฟังก์ชั่นการควบคุมเสียงระดับปกติ และการปรับระดับเสียงในแต่ละช่องเสียง รวมถึงการปรับระดับเสียงรวม
• มีช่องเสียบไมค์สำหรับการรับเสียงต่างๆ เช่น ไมค์พูด, ไมค์อินสตรูเมนต์,

Roland V-60HD ดียังไง เหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหน

Roland V-60HD เป็นอุปกรณ์ Mixer/ Switcher แบบ all-in-one ที่มีความสามารถในการควบคุมการแสดงภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นสำหรับลูกค้ากลุ่มใดที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีความสามารถในการควบคุมการแสดงภาพและเสียงรวมไว้ในตัวเดียวกัน จึงเหมาะกับการใช้งานในหลายสถานการณ์ เช่น

1. การใช้งานในงานอีเวนต์

• สำหรับผู้จัดงานที่ต้องการควบคุมการแสดงภาพและเสียงในงานอีเวนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สามารถใช้งานได้หลายช่องทาง เช่น การใช้งานในงานประชุม, งานแสดงสินค้า, งานแสดงสิ่งของ, งานอาเซียนเกมส์ และอื่นๆ

2. การใช้งานในสตูดิโอสำหรับการถ่ายทอดสด

• สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในการถ่ายทอดสด หรือการบันทึกวิดีโอ โดยควบคุมการแสดงภาพและเสียงได้ในเวลาเดียวกัน
• สามารถใช้งานได้ในการถ่ายทอดสดหลากหลายแบบ เช่น การถ่ายทอดสดเทคนิค (technical broadcast), การถ่ายทอดสดผ่าน YouTube, Facebook Live และการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางอื่นๆ

3. การใช้งานในองค์กร

• สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งานในการประชุมหรือการนำเสนองานที่ต้องการแสดงภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีฟังก์ชั่นอะไรที่น่าใช่บ้าง จุดเด่นคืออะไร

Roland V-60HD มีฟังก์ชั่นหลากหลายที่น่าใช้งานดังนี้

1. การปรับแต่งรูปภาพ: สามารถปรับแต่งรูปภาพได้หลากหลายด้วยฟังก์ชั่นเช่น เพิ่มเฉดสี (Saturation), ความสว่าง (Brightness), ความคมชัด (Sharpness) และอื่นๆ

2. การแสดงภาพแบบมัลติวิว: สามารถแสดงภาพแบบมัลติวิวได้สูงสุดถึง 4 ภาพพร้อมกัน และสามารถเลือกการแสดงภาพแบบ Picture-in-Picture ได้

3. การควบคุมการแสดงภาพและเสียงระยะไกลผ่าน RS-232: สามารถควบคุมการแสดงภาพและเสียงของ V-60HD ได้ผ่าน RS-232 ซึ่งทำให้สามารถควบคุมการแสดงภาพและเสียงได้อย่างรวดเร็ว

4. การรองรับการเชื่อมต่อ HDMI: สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีพอร์ต HDMI เข้ากับ V-60HD ได้

5. การรองรับการเชื่อมต่อ SDI: สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีพอร์ต SDI เข้ากับ V-60HD ได้
   
   

จุดเด่นของ Roland V-60HD คือสามารถควบคุมการแสดงภาพและเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบ all-in-one โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ไมโครโฟน, เครื่องเสียง, และกล้องวงจรปิด และยังมีฟังก์ชั่นหลากหลายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปภาพและเสียงได้อย่างง่ายดาย

นอกจากฟังก์ชั่นการสลับภาพและเสียงระหว่างแหล่งอินพุท และการตั้งค่าความละเอียดและความลื่นของภาพ ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจใน Roland V-60HD ดังนี้

1. รองรับการสตรีมมิ่ง (Streaming): สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือผ่านพอร์ท USB หรือ HDMI และสตรีมมิ่งไปยังเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เพิ่มเติม

2. ระบบเสียงดี: มีระบบป้องกันเสียงดี (Audio Dynamics) ที่ช่วยปรับระดับเสียงให้สมดุลและเพิ่มความชัดเจนของเสียง รวมถึงมีเอฟเฟกต์เสียง (Sound Effects) ที่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

3. การควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือ: สามารถใช้แอป Roland V-60HD Remote บนโทรศัพท์มือถือควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ บนเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นการสลับภาพหรือปรับแต่งเอฟเฟกต์เสียง

4. อินพุทหลากหลาย: มีอินพุท HDMI, RGB/Component, Composite, และ Audio หลายช่อง ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย

5. มีอินเตอร์เฟส SDI: มีอินเตอร์เฟส SDI ที่ช่วยเชื่อมต่อกับกล้องหรืออุปกรณ์ที่มีพอร์ท SDI ได้

2.Roland V1-HD อุปกรณ์สลับภาพ

Roland V1-HD เป็นเครื่องมิกเซอร์วิดีโอแบบพกพาที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานที่ต้องการการผสมผสานวิดีโออย่างรวดเร็วและง่ายดาย เช่น งานสัมมนา งานบันทึกวีดีโอ หรืองานสดที่ต้องทำการส่งถ่ายในเวลาเรียลไทม์

เครื่อง Roland V1-HD มีฟีเจอร์หลายรายการที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น:

1. การตัดเป็นสองช่อง: ช่องตัดสองช่องของ V1-HD ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถผสมภาพจากสองกล้องหรืออุปกรณ์อื่นๆได้ในเวลาเดียวกัน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม

2. รองรับภาพที่ความละเอียดสูง: V1-HD รองรับภาพที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p และยังสามารถแสดงผลในรูปแบบ 720p ได้อีกด้วย

3. การควบคุมผ่าน Remote: V1-HD สามารถควบคุมด้วยรีโมทได้ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานของ V1-HD ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

4. ฟังก์ชั่น Picture-in-Picture (PIP): ฟังก์ชั่น PIP ของ V1-HD ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงภาพจากหลายแหล่งพร้อมกันบนหน้าจอได้
   
   

Roland V-1HD เป็นเครื่องมิกเซอร์วิดีโอที่มีขนาดเล็กและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างวิดีโอโดยไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในการตัดต่อวิดีโอ โดย V-1HD สามารถรับสัญญาณวิดีโอจากหลายแหล่งพร้อมกันและทำการสลับภาพได้ง่าย ๆ ผ่านทางปุ่มสวิตช์หรือการใช้งานผ่านระบบ Remote Control ผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์

V-1HD มีฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงที่หลากหลาย รวมถึงการตัดต่อวิดีโอและเสียงในเวลาเดียวกัน รองรับวิดีโอภาพสูงถึง 1080p/1080i/720p และมีฟังก์ชั่นการสั่งงานผ่านรีโมทเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

ดียังไง และเหมาะกับคนกลุ่มไหน

Roland V1-HD เป็นอุปกรณ์ Switcher ระดับ Entry Level ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการสลับภาพหรือวิดีโอระหว่างการถ่ายทอดสด โดยเฉพาะในการถ่ายทอดสัมมนาหรืองานประชุมที่มีจำนวนมากของผู้เข้าร่วม รายละเอียดคุณสมบัติของ Roland V1-HD ประกอบไปด้วย

• สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลาย เช่น HDMI, RGB/Component, Composite, และมี Audio Input ในตัว
• สามารถสลับภาพและวิดีโอได้สูงสุดถึง 4 ช่อง พร้อมทั้งสามารถสลับได้แบบต่อเนื่องหรือ Cut
• มีฟังก์ชั่น Picture-in-Picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพหรือวิดีโอขนาดเล็กไว้บนภาพหลักได้
• มีฟังก์ชั่นเสียงที่สามารถปรับระดับเสียง Input แต่ละช่องได้แยกต่างหาก และสามารถปรับเสียง Output ได้เช่นกัน
• มีฟังก์ชั่น Chroma Key (Green Screen) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบพื้นหลังออกจากภาพได้
• มีฟังก์ชั่น Memory สามารถบันทึกการตั้งค่าต่างๆได้เพื่อให้สะดวกในการใช้งานครั้งต่อไป

ดังนั้น หากคุณต้องการอุปกรณ์ Switcher ที่มีความสามารถพื้นฐานและใช้งานง่าย รวมถึงต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ

มีฟังก์ชั่นอะไรที่น่าใช่บ้าง จุดเด่นคืออะไร

Roland V-1HD เป็นเครื่องมิกเซอร์วิดีโอที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายและจุดเด่นหลายอย่าง โดยบางฟังก์ชั่นและจุดเด่นที่น่าสนใจได้แก่:

1. การปรับแต่งภาพวิดีโอที่หลากหลาย: มีฟังก์ชั่น Picture-in-Picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพวิดีโอทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งๆ ในขนาดที่ต้องการ และมีฟังก์ชั่น Split ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพวิดีโอจากหลายๆ แหล่งพร้อมกันได้

2. ความสะดวกในการใช้งาน: มีระบบเมนูที่ใช้งานง่าย และมีปุ่มตัวเลือกสำหรับการเลือกภาพวิดีโอแต่ละช่องอย่างง่ายดาย

3. การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: มีหลายช่องเชื่อมต่อที่สามารถรองรับภาพวิดีโอจากหลายแหล่งพร้อมกันได้ เช่น HDMI, RGB, และ Composite

4. ความสามารถในการบันทึก: สามารถบันทึกภาพวิดีโอได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม

5. ความพกพาได้สะดวก: เครื่องมีขนาดเล็กและเบา ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่

Roland V-1HD เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมิกเซอร์วิดีโอที่ใช้งานง่ายและมีฟังก์ชั่นหลากหลาย

3.Roland V2-HD

Roland V-02HD เป็น Switcher แบบพกพาที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการพกพาและใช้งานได้ทุกที่ มีฟังก์ชันการสลับภาพและเสียงหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสลับภาพและเสียงได้อย่างรวดเร็ว โดยมีคุณสมบัติดังนี้

1. การเชื่อมต่อ: มีทั้งแบบ HDMI และ RGB/Component สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น กล้องวงจรปิด โปรเจกเตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ

2. การสลับภาพและเสียง: สามารถสลับภาพและเสียงได้โดยใช้หน้าจอ LCD ที่มีขนาด 3 นิ้ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมได้ง่าย และเลือกภาพที่ต้องการแสดงได้อย่างรวดเร็ว

3. ความละเอียดสูง: รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p ทำให้ภาพและเสียงที่แสดงผลมีความคมชัดและเป็นอย่างดี

4. ฟังก์ชันอื่น ๆ : มีฟังก์ชัน Picture-in-Picture และ Green-Screen สำหรับการแสดงผลวิดีโอในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเอฟเฟ็กต์วิดีโอได้อย่างสร้างสรรค์

Roland V-02HD เป็นอุปกรณ์สำหรับการสตรีมมิ่งและการบันทึกวิดีโอที่มีขนาดเล็กและสะดวกต่อการพกพา มีความสามารถในการรับสัญญาณวิดีโอแบบต่างๆ เช่น HDMI, RGB/Component, Composite และ USB โดยสามารถแสดงผลได้ทั้งทาง HDMI และ USB พร้อมทั้งมีเสียงในการแจ้งเตือนเมื่อเชื่อมต่อสัญญาณไม่ถูกต้อง

อุปกรณ์นี้มีฟังก์ชั่นการสตรีมมิ่งแบบ Real-time ด้วยการเชื่อมต่อ USB 2.0 กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถสตรีมมิ่งไปยังโปรแกรมออกแบบและวิดีโอคอนเทนท์ต่างๆ เช่น OBS, Wirecast, Facebook Live, YouTube Live ฯลฯ ได้โดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถทำการบันทึกวิดีโอและเสียงได้พร้อมกันและสามารถนำไปใช้งานในภายหลังได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Picture-in-Picture ที่ช่วยให้สามารถแสดงวิดีโอได้หลายตัวพร้อมกันในหน้าจอเดียว

เนื่องจากมีขนาดเล็กและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย จึงเหมาะสำหรับนักบันทึกวิดีโอที่ต้องการอุปกรณ์ที่สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่และทุกเวลา รวมถึงนักสตรีมเมอร์ที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับการสตรีมมิ่งแบบพกพาที่สามารถนำไปใช้งานได้หลายที่และง่ายต่อการใช้งาน

Roland V-02HD เป็นเครื่องมือบันทึกวิดีโอและเครื่องมือสำหรับสตรีมมิ่ง (streaming) ที่มีขนาดเล็กและมีราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกวิดีโอหรือสตรีมมิ่งจากตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการบันทึกวิดีโอจากกล้อง DSLR หรือ mirrorless ไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการสตรีมมิ่งหรือการแกะสลักวิดีโอ

คุณสมบัติของ Roland V-02HD ได้แก่

• รองรับการรับสัญญาณวิดีโอแบบ HDMI ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p
• สามารถบันทึกวิดีโอได้ในรูปแบบไฟล์ MP4 ด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
• มีฟังก์ชัน Audio Mixer ให้ผู้ใช้สามารถปรับเสียงเพลงและเสียงไมค์ได้
• มีฟังก์ชัน Picture-in-Picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงภาพจากหลายแหล่งในเวลาเดียวกันได้
• มีฟังก์ชันตัดต่อวิดีโอเบื้องต้นในตัวอุปกรณ์ด้วย
• มีฟังก์ชัน Live Streaming ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสตรีมมิ่งไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook Live, YouTube Live, หรือ Twitch ได้โดยตรง

โดยมีคุณสมบัติสำคัญดังนี้

1. การเชื่อมต่อ: มีหลายช่องเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น HDMI, RGB/Component, USB และเสียง

2. การควบคุม: มีการควบคุมอุปกรณ์ผ่านโปรแกรม Remote Control App ที่ใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกและง่าย

3. การปรับแต่งสัญญาณวิดีโอ: มีฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ช่วยปรับแต่งสัญญาณวิดีโอได้อย่างหลากหลาย เช่น การปรับความสว่าง ความคมชัด การเปลี่ยนแสงสี และอื่น ๆ

4. ความสามารถในการบันทึกวิดีโอ: สามารถบันทึกวิดีโอได้พร้อมกับเสียงและสัญญาณวิดีโอ และสามารถเลือกบันทึกลงใน SD Card หรือ USB Flash Drive ได้

5. ความสามารถในการสตรีมมิ่ง: สามารถสตรีมมิ่งวิดีโอได้ผ่าน USB หรือ HDMI ไปยังหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook Live, YouTube Live, Twitch และอื่น ๆ

6. การนำเสนอวิดีโอในการประชุมออนไลน์: สามารถนำเสนอวิดีโอได้หลายหน้าจอพร้อมกัน

มีฟังก์ชั่นหลากหลายและจุดเด่นอยู่ดังนี้

1. รองรับการเชื่อมต่อ HDMI และ RGB/Component ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับหลายแหล่งอุปกรณ์ได้ เช่น กล้องวิดีโอ คอมพิวเตอร์ โปรเจคเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ

2. มีฟังก์ชั่น Picture-in-Picture (PIP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงวิดีโอสองแห่งพร้อมกันได้ โดยสามารถปรับขนาดและตำแหน่งของวิดีโอได้ตามต้องการ

3. มีฟังก์ชั่นการสตรีมมิ่งผ่าน USB 2.0 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสตรีมมิ่งวิดีโอได้โดยตรงผ่านโปรแกรมที่ต้องการ เช่น OBS, Wirecast, XSplit และอื่นๆ

4. มีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอได้แบบไม่มีสูญเสียคุณภาพ (uncompressed) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอได้ในความละเอียดสูงโดยไม่เสียคุณภาพ

5. มีฟังก์ชั่นการควบคุมคุณภาพวิดีโอด้วย (video effects) เช่น การปรับสี ความคมชัด และความสว่าง เพื่อให้ได้วิดีโอที่มีคุณภาพสูง

6. มีฟังก์ชั่น Tally ที่ช่วยแสดงสถานะการใช้งาน (on-air status) ของกล้องวิดีโอที่

4.Lumentek EZ-PRO VS4

รายละเอียดของ Lumentek EZ-PRO VS4 คือตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ 4 ช่องที่ใช้สำหรับควบคุมการส่งสัญญาณวิดีโอ โดยสามารถแปลงสัญญาณวิดีโอจากหลายแหล่งเชื่อมต่อเข้ามาเป็นสัญญาณวิดีโอที่สามารถส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถใช้งานได้กับหลายๆ แบรนด์ของกล้องวิดีโอ โปรเจ็คเตอร์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีสัญญาณวิดีโออยู่ด้วยกัน ตัว EZ-PRO VS4 มีรูปแบบที่มีขนาดกะทัดรัดและใช้งานได้อย่างง่ายดาย มีความสามารถในการควบคุมคุณภาพสัญญาณวิดีโอได้อย่างละเอียด และมีการตั้งค่าผ่านทางจอ LCD ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น Video mixer, Matrix Switcher, Router และอื่นๆ ได้อีกด้วย

Lumentek EZ-PRO VS4 เป็นตัวควบคุมวิดีโอสำหรับการผสมสัญญาณวิดีโอหลายแหล่ง ซึ่งมีข้อดีและคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น

1. ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน: คุณสามารถควบคุม EZ-PRO VS4 ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้รีโมท ทำให้การควบคุมง่ายและสะดวกมากขึ้น
2. รองรับหลายแหล่งสัญญาณ: EZ-PRO VS4 รองรับการเชื่อมต่อและผสมสัญญาณวิดีโอจากหลายแหล่ง เช่น กล้องวิดีโอ HDMI, คอมพิวเตอร์, โทรทัศน์, เครื่องเล่น Blu-ray และอุปกรณ์อื่น ๆ
3. การผสมสัญญาณ: คุณสามารถผสมสัญญาณวิดีโอจากหลายแหล่งได้ ด้วยการปรับค่าความสว่างและความคมชัดของแต่ละสัญญาณวิดีโอ
4. การเข้ารหัสระดับมืออาชีพ: EZ-PRO VS4 สามารถเข้ารหัสวิดีโอได้ที่ระดับมืออาชีพ เช่น การเลือกความเร็วเฟรมเรตและการเข้ารหัสคุณภาพสูงสุด
5. การควบคุมคุณภาพวิดีโอ: คุณสามารถปรับแต่งคุณภาพวิดีโอได้ด้วยการปรับค่าความสว่าง ความเข้มของสี และความคมชั
   
   ความสามารถในการควบคุมแสง: มีความสามารถในการควบคุมแสงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับความสว่างและความมันส์ของแสง การเปลี่ยนแปลงสีของแสง การปรับค่าอีคิว และอื่น ๆ
6. ความยืดหยุ่นในการตั้งค่า: มีความยืดหยุ่นในการตั้งค่า ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับงานและสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
7. รองรับการทำงานที่หลากหลาย: สามารถทำงานได้หลากหลายในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น งานออกแบบไลท์แบบง่าย ๆ ในคอนเสิร์ต การถ่ายทำวิดีโอสั้น ๆ ในสตูดิโอ และอื่น ๆ
8. การติดตั้งที่ง่าย: การติดตั้งของ Lumentek EZ-PRO VS4 ไม่ซับซ้อน และสามารถติดตั้งได้ด้วยความสะดวก โดยไม่ต้องใช้เวลานานในการเชื่อมต่อและตั้งค่า
9. มีระบบควบคุมแบบมือถือ: สามารถควบคุมการทำงานของ Lumentek EZ-PRO VS4 ผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ตู้ควบคุม

คุณสมบัติการใช้งานของ Lumentek EZ-PRO VS4

Lumentek EZ-PRO VS4 เป็นตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (video scaler) และเป็น switcher 4x1 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการสลับภาพวิดีโอ และการปรับขนาด ความละเอียด และความคมชัดของภาพได้ง่ายดาย

คุณสมบัติการใช้งานของ Lumentek EZ-PRO VS4 ประกอบไปด้วย:

1. การรองรับรูปแบบวิดีโอ: รองรับรูปแบบวิดีโอที่หลากหลาย เช่น HDMI, VGA, Composite, Component และซีเอสเอฟ (SDI)

2. การควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน: ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการสลับภาพวิดีโอ และการปรับขนาด ความละเอียด และความคมชัดของภาพผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ

3. การทำงานแบบอัตโนมัติ: เครื่อง Lumentek EZ-PRO VS4 สามารถตรวจจับสัญญาณวิดีโอและปรับค่าความละเอียดของภาพโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ภาพแสดงผลได้ด้วยความคมชัดสูงสุด

4. การสลับภาพวิดีโอแบบไร้เสียง: มีฟังก์ชั่นการสลับภาพวิดีโอแบบไร้เสียง (seamless switching) ที่ไม่มีเสียงรบกวนเมื่อสลับภาพวิดีโอ

5. การตั้งค่าง่าย: การตั้งค่าง่ายด้วยหน้าจอแสดงผล OLED และปุ่มควบคุม

เหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง

Lumentek EZ-PRO VS4 เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ต้องการเครื่องมือการสังเคราะห์วิดีโอในระดับมืออาชีพ เช่น สถานีโทรทัศน์ บริษัทผลิตวิดีโอโปรโมชั่น สตูดิโอ หรือผู้ที่ต้องการทำการสตรีมมิ่งวิดีโอในสังคมออนไลน์ เช่น ผู้ที่ทำงานด้านสื่อสารการตลาดหรือเกมออนไลน์ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในงานประชุม อบรม หรืองานอีเว้นท์ต่างๆ ที่ต้องการการสังเคราะห์วิดีโอในเวลาเรียลไทม์ และต้องการความสะดวกสบายในการควบคุมตัวเครื่องและตั้งค่าได้ง่าย ๆ ด้วยตัวควบคุมแบบโดยสารที่ใช้งานได้ง่าย และมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งภาพวิดีโอได้อย่างหลากหลายตามความต้องการ

นี่คือสเปคของ Lumentek EZ-PRO VS4:

• ตัวเลขเข้า (Input): 4 ช่อง (HDMI, DVI, VGA, และ DisplayPort)
• ตัวเลขออก (Output): 2 ช่อง (HDMI และ DVI)
• รองรับการแสดงผลขนาดสูงสุดถึง 1920 x 1200 และ 1080p
• รองรับการสลับและควบคุมการแสดงผลด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดผ่าน USB
• มีฟังก์ชั่นการควบคุมการแสดงผลแบบพิเศษเช่นการเปลี่ยนภาพ (image transformation) และการตัดภาพ (cropping)
• รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวควบคุม (Control System) แบบ RS232 และ TCP/IP
• มีฟังก์ชั่นการปรับความสว่างและความเข้มของสี
• ขนาด: 483 x 184 x 44 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก: 2.5 กิโลกรัม

โดยทั่วไปแล้ว Lumentek EZ-PRO VS4 เหมาะสำหรับการใช้งานในงานประชุม การศึกษา การนำเสนองาน หรือใช้เป็นเครื่องควบคุมการแสดงผลในห้องประชุมและโรงแรมขนาดเล็ก ๆ โดยที่ไม่ต้องมีการใช้ระบบเครือข่ายที่มากเกินไป

AVmatrix HVS0403U เป็น Switcher 4x3 HDMI ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อแบบ Plug and Play ที่ง่ายต่อการใช้งาน มีความสามารถในการควบคุมการสลับภาพได้อย่างที่สมบูรณ์แบบด้วยตัวควบคุมระยะไกลผ่าน RS232 และ LAN และอุปกรณ์ระบบอื่นๆ

รายละเอียดเพิ่มเติมของ AVmatrix HVS0403U ได้แก่

• สนับสนุนความละเอียดระดับ Full HD 1080p และความเร็วระดับ 60Hz
• มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 4 ช่อง
• มีฟังก์ชั่น Picture in Picture (PIP) ที่สามารถแสดงหน้าจอรวมได้ 3 ช่องพร้อมกัน
• มีฟังก์ชั่นการสลับภาพแบบ Seamless ที่ไม่มีเสียงหรือหน้าจอดำขณะสลับภาพ
• สนับสนุนการควบคุมผ่านรีโมทและเว็บเบราว์เซอร์
• สนับสนุนฟังก์ชั่นการจัดการกลุ่มผ่านซอฟต์แวร์อย่างเช่นควบคุมผ่าน RS232, LAN และอุปกรณ์ระบบอื่น ๆ

ด้วยความสามารถข้างต้น AVmatrix HVS0403U เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องประชุม ร้านค้าหรือธุรกิจขนาดเล็ก ๆ ที่ต้องการควบคุมและสลับภาพหลายช่องได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการใช้งาน

AVmatrix HVS0403U เป็นตัวสลับสัญญาณภาพและเสียง (Video Switcher) ที่รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ Analog และ Digital ซึ่งมีคุณสมบัติการใช้งานดังนี้

1. รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงแบบ Analog และ Digital ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 1080p และ 3G-SDI.

2. มีเสียงออกสัญญาณแบบ embedded audio และอนาล็อก (Analog audio input/output)

3. รองรับการเชื่อมต่อผ่าน RS232 เพื่อควบคุมการทำงานและการส่งสัญญาณ

4. รองรับการควบคุมผ่านแอพพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือด้วย Wi-Fi

5. มีฟังก์ชันตัดภาพ (Picture-in-Picture) ที่สามารถแสดงผลได้ในหลายรูปแบบ

6. สามารถปรับ Brightness, Contrast, Hue, Saturation และ Gamma ของภาพได้

7. รองรับฟังก์ชัน Audio Follow Video (AFV) ซึ่งสามารถควบคุมสัญญาณเสียงตามภาพที่แสดงได้

8. มีฟังก์ชันเลือกภาพและเสียงได้หลายช่องพร้อมกัน (Multi-view)

9. มีฟังก์ชันเลื่อนภาพ (T-Bar) สำหรับการทำการเปลี่ยนภาพแบบค่อยๆ เหมือนตัวแต่งภาพ

10. รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับเก็บไฟล์แบบ USB 2.0

11. มีฟังก์ชันการป้องกันการสลับภาพ (Image Freeze) สามารถหยุดภาพที่แสดงอยู่ได้ทันที

AVMatrix HVS0403U เหมาะกับลูกค้ากลุ่มไหนบ้าง

AVMatrix HVS0403U เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการตัดต่อวิดีโออย่างมืออาชีพเช่น สถานีโทรทัศน์, สตูดิโอถ่ายทอดสด, ศูนย์การศึกษาและองค์กรธุรกิจ ซึ่งมีความต้องการในการเชื่อมต่อและสลับภาพหลายๆ แหล่งที่มาได้อย่างรวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ตามความต้องการของโปรเจ็กต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานจริงในวงการอุตสาหกรรมวิดีโอ การทำงานของ AVMatrix HVS0403U เป็นไปได้ด้วยความยืดหยุ่นที่สูง ซึ่งมีฟังก์ชั่นการตัดต่อวิดีโอที่สูง รองรับความละเอียดสูงสุดถึง 1080p และมีความเร็วในการเชื่อมต่อ HDMI ที่ 1.3Gbps ทำให้สามารถสลับภาพได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ไม่มีการล่มเหลวขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ อย่างเช่น Picture in Picture, Picture by Picture และควบคุมอุปกรณ์ผ่าน Remote ที่ช่วยให้การใช้งานดูง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ด้านการตัดต่อวิดีโอ

สเปค AVMatrix HVS0403U มีอะไรบ้าง

AVMatrix HVS0403U คือ อุปกรณ์ Switcher ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อสัญญาณได้หลากหลาย มาพร้อมกับฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการการแสดงสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

• รองรับการเชื่อมต่อแบบ HDMI และ SDI ได้พร้อมกัน โดยรองรับความละเอียดสูงสุดถึง 1080p60
• มีอินพุต HDMI 3 ช่อง และ SDI 2 ช่อง พร้อมอินพุตเสริมอีก 2 ช่อง
• มีเอาท์พุต HDMI 2 ช่อง และ SDI 1 ช่อง พร้อมเอาท์พุตเสริมอีก 1 ช่อง
• มีฟังก์ชั่น Picture in Picture (PIP) และ Picture by Picture (PBP) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงหลายสัญญาณพร้อมกันได้
• มีฟังก์ชั่น Audio Embedding/De-Embedding ที่ช่วยให้เสียงสามารถส่งไปพร้อมกับสัญญาณวิดีโอได้
• มีฟังก์ชั่น Multiview ที่แสดงผลสัญญาณจากหลายอินพุตพร้อมกันบนหน้าจอ
• มีฟังก์ชั่น Fade to Black (FTB) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดความสว่างลงเพื่อปิดฉากและใช้ในการสลับฉากหรือจบการแสดง
• มีฟังก์ชั่น Chroma Keying ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเอาออกพื้นหลังของสัญญาณวิดีโอและแทนที่ด้วยภาพอื่นได้
• รองรับการควบคุมผ่าน RS232 และ RJ45