ในสายอาชีพเกี่ยวกับด้านวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ Video Editor , Video Content Creator , Youtuber , หรืออื่นๆที่ต้องทำงานเกี่ยวกับการตัดต่อวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นระดับผู้ใช้เริ่มต้นที่มือสมัครเล่นหรือจนไปถึงระดับที่เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ ถ้าพูดถึงเครื่องมือที่จะใช้ในการทำงานแล้ว โปรแกรมที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้ ได้แก่ Adobe Premiere Pro , Davinci Resolve และ Final Cut Pro ที่จะได้มีการพูดถึงมากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งความสามารถหลักๆของโปรแกรมเหล่านี้ก็คือไว้สำหรับใช้ในการตัดต่อหรือเรียบเรียงวิดีโอออกมา ซึ่งความสามารถคร่าวๆก็คงจะไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ ถ้ามองว่าเอาไว้ตัดต่อวิดีโอเฉยๆ แต่ถ้าให้ลงรายละเอียดในแต่ละโปรแกรมก็จะมีจุดแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย อยู่ที่การใช้งานของแต่ผู้ใช้แต่ละคนด้วย
แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงสองโปรแกรมตัดต่อวิดีโอและเปรียบเทียบความสามารถของแต่ละโปรแกรม เพื่อช่วยตัดสินใจว่าโปรแกรมตัวไหนจะเป็นประโยชน์ต่อคุณมากที่สุด โดยจะเป็นการเปรียบเทียบ Adobe Premiere Pro และ Davinci Resolve (ส่วนการเปรียบกับ Final Cut ตามมาทีหลังนะครับ)
การเลือกใช้ซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอขึ้นอยู่กับความต้องการและประสบการณ์ของผู้ใช้ ถ้าคุณมีบัญชี Creative Cloud และมีความคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ Adobe, และต้องการซอฟต์แวร์ที่ให้ความยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ, Premiere Pro อาจเป็นตัวเลือกที่ดี. แต่ถ้าคุณต้องการความสมบูรณ์ทั้งในด้านตัดต่อและการปรับแต่งสี, และต้องการตัวเลือกที่คุ้นเคยกับงบประมาณจำกัด, DaVinci Resolve อาจเป็นทางเลือกที่ดี.
หัวข้อ |
Adobe Premiere Pro |
Davinci Resolve |
ผลสรุป |
ราคา |
ค่าใช้จ่ายแบบรายเดือน ราคา 1,390 บาท และรายปี ราคา 16,640 บาท |
ค่าใช้จ่ายครั้งเดียว ราคาประมาณ 14,990 บาทบาท |
Davinci Resolve |
การรองรับระบบปฏิบัติการ |
Windows / MacOS |
Windows / MacOS / Linux |
Davinci Resolve |
ความต้องการของระบบ |
Windows 10 หรือใหม่กว่า และ macOS v10.15 (Catalina) หรือใหม่กว่า |
Windows 10 หรือใหม่กว่า และ macOS 11 (Big Sur) หรือใหม่กว่า |
Adobe Premiere Pro |
หน้าตาของ UI โปรแกรมม |
หน้าจาเรียบง่ายและจัดหน้า UI ตามความต้องการได้ |
ไม่สามารถปรับแต่งหน้าตาได้ UI ได้ |
Adobe Premiere Pro |
การแก้ไขปรับแต่งสี |
เครื่องมือเรื่องงสีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ Davinci แต่ก็สามารถใช้งานได้ |
Davinci เริ่มต้นจากการเป็นโปรแกรมทำงานทางด้านเกลี่ยสี โดยเฉพาะ |
Davinci Resolve |
Multicam |
รองรับ และการใช้งานได้อย่างลื่นไหล |
รองรับ |
Adobe Premiere Pro |
Motion Graphic |
ไม่มีเอฟเฟคมากนักแต่มีปลั๊กอินให้ติดตั้ง |
มาพร้อมกับเครื่องมือโมชั่นกราฟฟิกในตัววที่ชื่อ Fusion |
Davinci Resolve |
การแก้ไขเสียง |
มีฟีเจอร์เรื่องการแก้ไขสี แต่ถ้าจะให้ดีต้องอาศัยเครื่องมือจาก Adobe Audition ช่วยเพิ่มเติม |
มีเครื่องมือในตัวที่ ชื่อ Fairlight ที่ใช้แก้ไขเสียงโดยเฉพาะ |
Davinci Resolve |
ปลั๊กอิน จาก Third-Party |
รองงรับการใช้ปลั๊กอินและให้ใช้มากมายและมีความเสถียรพร้อมใช้งาน |
รองรับปลั๊กอินและปลั๊กอินหลายรายการกำลังได้รับการพัฒนา |
Adobe Premiere Pro |
การทำงานร่วมกัน |
สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมอื่นๆในเครือของ Adobe เช่น After effect , Audition |
ไม่มีการรองรับซอฟต์แวร์ภายนอก |
Adobe Premiere Pro |
ประสิทธิภาพการทำงาน |
มีโอกาสโปรแกรมแคลชและค้างบ้าง และการส่งออกวิดีโอส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการกำหนดของผู้ใช้ |
ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะแต่มีการใช้งานที่ลื่นไหลและเวลาส่งงออกไฟล์ทำได้รวดเร็ว |
Davinci Resolve |
การซัพพอร์ทและอัปเดต |
การช่วยเหลือแนะนำเป็นวิดีโอช่วยสอน สำหรับฟีเจอร์มากมาย และปลั๊กอินของ Third Party |
มีกลุ่มชุมชนช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง |
Adobe Premiere Pro |
การใช้งานกับผู้ใช้ |
ผู้สร้างภาพยนตร์มืออาชีพ หรือ นักต่อต่อวิดีโอมืออาชีพ |
ผู้ใช้เริ่มต้นและผู้ปรับแต่งงสีมืออาชีพ (Colorist) |
เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ |
ความต้องการตอนใช้งาน |
เหมาะสำหรับโปรเจคใหญ่และการตัดต่อแบบมืออาชีพ ที่ต้องการใช้งานพร้อมกับชุดโปรแกรมอื่นๆในเครือ Adobe |
กำลังหัดเริ่มใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ หรือ ต้องการเกลี่ยสีแบบมืออาชีพ |
|
หากสนใจสั่งซื้อ Davinci Resolve คลิกที่นี่ :
https://www.icamplus.co.th/product/1468/blackmagic-design-davinci-resolve-studio-activation-key
(แบบ Activation Key)
https://www.icamplus.co.th/product/1476/blackmagic-design-davinci-resolve-studio-dongle
(แบบ USB Dongle)