มิกเซอร์มืออาชีพสำหรับงานสตูดิโอ 5 อันดับยอดนิยม
มิกเซอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียง มีหน้าที่ในการผสมสัญญาณเสียงจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกันให้เป็นสัญญาณเสียงเดียวที่สมบูรณ์แบบ การเลือกซื้อมิกเซอร์ที่เหมาะสมกับงานสตูดิโอมืออาชีพนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมิกเซอร์ที่ดีจะช่วยให้งานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
วิธีการเลือกซื้อมิกเซอร์สำหรับงานสตูดิโอมืออาชีพ
ในการเลือกซื้อมิกเซอร์สำหรับงานสตูดิโอมืออาชีพ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- จำนวนช่องสัญญาณ : จำนวนช่องสัญญาณของมิกเซอร์เป็นตัวกำหนดจำนวนแหล่งเสียงที่สามารถใช้บันทึกได้พร้อมกัน หากต้องการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ พร้อมกันหลายแหล่ง เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ จำเป็นต้องเลือกมิกเซอร์ที่มีจำนวนช่องสัญญาณเพียงพอ
- ประเภทของช่องสัญญาณ : ช่องสัญญาณของมิกเซอร์มีหลายประเภท เช่น ช่องสัญญาณไมโครโฟน ช่องสัญญาณไลน์ ช่องสัญญาณอินพุตสเตอริโอ เป็นต้น ควรเลือกมิกเซอร์ที่มีช่องสัญญาณประเภทต่างๆ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน
- คุณสมบัติของมิกเซอร์ : มิกเซอร์บางรุ่นมีฟีเจอร์หรือคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ เป็นต้น ควรพิจารณาเลือกมิกเซอร์ที่มีฟีเจอร์หรือคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการ
- งบประมาณ : มิกเซอร์มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ควรพิจารณาเลือกมิกเซอร์ที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณที่มีอยู่
มิกเซอร์ 5 อันดับยอดนิยม
- Presonus StudioLive AR 16
- Zoom live track L12
- SSL BiG SiX
- Allen & Heath Qu-16
- Midas M32 LIVE
1.Presonus StudioLive AR 16
Presonus StudioLive AR 16 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอล 16 ช่องสัญญาณ ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ทั้งอีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB ได้โดยตรง ช่วยให้บันทึกเสียงและมิกซ์เสียงได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น Presonus StudioLive AR 16 เป็นมิกซ์เซอร์แบบ Analog ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น USB interface 16 ช่องสัญญาณ และมีช่องสำหรับ SD card รวมทั้งมีซอฟท์แวร์ “Studio One” ให้มาใช้งานด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยผ่าน Bluetooth แบบ 4.1 ที่ให้มาด้วย
รูปแบบ : Analog มี USB interface
ช่องเสียบ : 16 แชลแนล
อินพุท : - XLR (mic preamps) 12 ช่อง
- Jack 6.3 mm (line/instrument) 2 ช่อง
- Jack 6.3 mm (line) 6 ช่อง
- Jack 6.3 mm (stereo paired) 8 ช่อง
- RCA (stereo pair) 2 ช่อง
- Aux 3.5 1 ช่อง
เอ้าท์พุท : - XLR 2 ช่อง
- Jack 6.3 mm (control room) 2 ช่อง

รายละเอียดเพิ่มเติม
- จำนวนช่องสัญญาณ : 16 ช่องสัญญาณ ประกอบด้วย
- ช่องสัญญาณไมโครโฟน 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณไลน์ 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณสเตอริโอ 2 ช่อง รองรับ RCA
- ฟีเจอร์
- อีควอไลเซอร์ 3-Band แบบ parametric บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- คอมเพรสเซอร์แบบ FET บนช่องสัญญาณไมโครโฟน
- อีเฟกต์ต่างๆ เช่น Delay, Reverb, Chorus, Flanger, EQ, Compression เป็นต้น
- การเชื่อมต่อ USB 2.0 รองรับการบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบ Real-Time
- การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น XLR, 1/4", RCA, MIDI เป็นต้น
ข้อดี
- มีจำนวนช่องสัญญาณเพียงพอสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ
- มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB ได้โดยตรง ช่วยให้บันทึกเสียงและมิกซ์เสียงได้สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อเสีย
- น้ำหนักค่อนข้างมาก (18.5 กิโลกรัม)
- หน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก (2.8 นิ้ว)
เหมาะกับงานแบบไหน ?
Presonus StudioLive AR 16 เหมาะกับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานต่างๆ ดังนี้
- งานบันทึกเสียง : เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ สามารถใช้บันทึกเสียงได้พร้อมกันหลายแหล่ง ช่วยให้งานบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
- งานมิกซ์เสียง : เหมาะสำหรับการปรับแต่งเสียงและมิกซ์เสียงให้สมบูรณ์แบบ มีฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- งานแสดงสด : สามารถใช้เป็นมิกเซอร์สำหรับงานแสดงสดได้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วยให้งานแสดงสดมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Presonus StudioLive AR 16 ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ เพราะมีจำนวนช่องสัญญาณเพียงพอ มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน และใช้งานง่าย

สรุป
Presonus StudioLive AR 16 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอลที่เหมาะสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ มีจำนวนช่องสัญญาณเพียงพอ มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน และใช้งานง่าย เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ
2.Zoom Live Track L12

Zoom live track L12 เป็นมิกซ์ตัวแรกของ Zoom ที่เป็นแบบดิจิทัล โดย Zoom live track L12 เป็นการผสมผสานระหว่าง Mixing Console , Audio interface และ Digital recorder อยู่ในเครื่องเดียว ที่ช่วยให้การทำงานของผู้ใช้สะดวกมากยิ่งขึ้น รองรับการใช้งานทั้งการแสดงสดและห้องสตูดิโอ รวมถึงการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับอุปกรณ์ iOS ด้วย Zoom Live Track L12 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอล 12 ช่องสัญญาณ ที่มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB ได้โดยตรง ช่วยให้บันทึกเสียงและมิกซ์เสียงได้สะดวกยิ่งขึ้น
รูปแบบ : Digital มี USB interface
ช่องเสียบ : 12 แชลแนล
อินพุท : - XLR แบบ Combo (mic/line) 8 ช่อง (ช่อง 1,2 Hi-Z)
- Jack 6.3 mm (stereo channels) 4 ช่อง
- RCA (stereo) 4 ช่อง
เอ้าท์พุท : - XLR 2 ช่อง (master out)
- Jack 6.3 mm (monitor) 2 ช่อง

รายละเอียดเพิ่มเติม
- จำนวนช่องสัญญาณ : 12 ช่องสัญญาณ ประกอบด้วย
- ช่องสัญญาณไมโครโฟน 4 ช่อง รองรับ XLR
- ช่องสัญญาณไลน์ 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณสเตอริโอ 2 ช่อง รองรับ RCA
ฟีเจอร์
-
- อีควอไลเซอร์ 3-Band แบบ parametric บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- คอมเพรสเซอร์แบบ FET บนช่องสัญญาณไมโครโฟน
- อีเฟกต์ต่างๆ เช่น Delay, Reverb, Chorus, Flanger, EQ, Compression เป็นต้น
- การเชื่อมต่อ USB 2.0 รองรับการบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบ Real-Time
- การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น XLR, 1/4", RCA, MIDI เป็นต้น
- หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
ข้อดี
- มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย
- มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB ได้โดยตรง ช่วยให้บันทึกเสียงและมิกซ์เสียงได้สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อเสีย
- น้ำหนักค่อนข้างมาก (10.2 กิโลกรัม)
- ราคาค่อนข้างสูง
สรุป
Zoom Live Track L12 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอลที่เหมาะสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ
เหมาะกับงานแบบไหน
Zoom Live Track L12 เหมาะกับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานต่างๆ ดังนี้
- งานบันทึกเสียง : เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ สามารถใช้บันทึกเสียงได้พร้อมกันหลายแหล่ง ช่วยให้งานบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
- งานมิกซ์เสียง : เหมาะสำหรับการปรับแต่งเสียงและมิกซ์เสียงให้สมบูรณ์แบบ มีฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- งานแสดงสด : สามารถใช้เป็นมิกเซอร์สำหรับงานแสดงสดได้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วยให้งานแสดงสดมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Zoom Live Track L12 ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ เพราะมีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน
3.SSL BiG SiX

SSL BiG SiX มิกซ์เซอร์ Analog ที่มีช่องสัญญาณแบบ 16 ช่อง ซึ่งมีช่องสัญญาณแบบ mono ให้มา 4 ช่อง ที่มาพร้อม Preamps ไมโครโฟน “SuperAnalogue” ที่พัฒนาโดย SSL นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับปรุงให้มิกซ์เซอร์ตัวนี้สามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้นโดยเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อแบบ อินเตอร์เฟสเสียงแบบ USB 24bit/96kHz แบบ 16 ช่อง SSL BiG SiX เป็นมิกเซอร์อนาล็อก 16 ช่องสัญญาณ ที่มีเสียงคุณภาพดีเยี่ยม ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ

รูปแบบ : Analog มี USB interface (Type-c)
ช่องเสียบ : 18 แชลแนล
Audio resolution: 24-bit/96kHz
อินพุท : - 4 ช่อง XLR
- 8 ช่อง (Jack 6.3 mm) (4 x stereo channel)
- 4 ช่อง (Jack 6.3 mm) (2 x external stereo input)
- 4 ช่อง (Jack 6.3 mm) (Hi-Z)
เอ้าท์พุท : - 2 ช่อง (Jack 6.3 mm) TRS (main)
- 2 ช่อง (Jack 6.3 mm) TRS (main monitor)
- 2 ช่อง (Jack 6.3 mm) TRS (alt monitor)
รายละเอียดเพิ่มเติม
- จำนวนช่องสัญญาณ : 16 ช่องสัญญาณ ประกอบด้วย
- ช่องสัญญาณไมโครโฟน 4 ช่อง รองรับ XLR
- ช่องสัญญาณไลน์ 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณสเตอริโอ 4 ช่อง รองรับ RCA
ฟีเจอร์
-
- อีควอไลเซอร์ 3-Band แบบ parametric บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- คอมเพรสเซอร์แบบ SSL บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- อีเฟกต์ต่างๆ เช่น Delay, Reverb, Chorus, Flanger, EQ, Compression เป็นต้น
- การเชื่อมต่อ USB 2.0 รองรับการบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบ Real-Time
- การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น XLR, 1/4", RCA, MIDI เป็นต้น
ข้อดี
- มีเสียงคุณภาพดีเยี่ยม
- ใช้งานง่าย
- มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- น้ำหนักเบา (10.5 กิโลกรัม)
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- ไม่มีหน้าจอสัมผัส
สรุป
SSL BiG SiX เป็นมิกเซอร์อนาล็อกที่เหมาะสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ มีเสียงคุณภาพดีเยี่ยม ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ
เหมาะกับงานแบบไหน
SSL BiG SiX เหมาะกับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานต่างๆ ดังนี้
- งานบันทึกเสียง : เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ สามารถใช้บันทึกเสียงได้พร้อมกันหลายแหล่ง ช่วยให้งานบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
- งานมิกซ์เสียง : เหมาะสำหรับการปรับแต่งเสียงและมิกซ์เสียงให้สมบูรณ์แบบ มีฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- งานแสดงสด : สามารถใช้เป็นมิกเซอร์สำหรับงานแสดงสดได้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วยให้งานแสดงสดมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ SSL BiG SiX ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ เพราะมีเสียงคุณภาพดีเยี่ยม ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน
4.Allen & Heath Qu-16

Allen & Heath Qu-16 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอล 16 ช่องสัญญาณ ที่มีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ
รูปแบบ : Digital มี USB Audio Interface (USB A)
ช่องเสียบ : 18 แชลแนล
อินพุท : - 16 Mono Input (MICเป็นXLR/LINEเป็น6.35mmTRS)
- 3 (6.35 mm) Stereo Input (TRS)
- 1 (3.5 mm) Stereo Input
เอ้าท์พุท : - 4x Mono XLR (Mix Outputs)
- 3x Stereo Pair XLR (Mix Outputs)
- 1x Stereo Pair XLR (Main Outputs)
- 1x Stereo Pair 1/4″ (6.35 mm) TRS (Alt Mix Output)
- 1x Stereo Pair 1/4″ (6.35 mm) TRS (2TRK Output)
- 1x XLR AES Digital 2-Channel
- 1x Ethernet Remote Outputs for Mix 1 to 10, LR

รายละเอียดเพิ่มเติม
- จำนวนช่องสัญญาณ : 16 ช่องสัญญาณ ประกอบด้วย
- ช่องสัญญาณไมโครโฟน 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณไลน์ 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
- ช่องสัญญาณสเตอริโอ 2 ช่อง รองรับ RCA
- ฟีเจอร์
- อีควอไลเซอร์ 3-Band แบบ parametric บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- คอมเพรสเซอร์แบบ FET บนช่องสัญญาณไมโครโฟน
- อีเฟกต์ต่างๆ เช่น Delay, Reverb, Chorus, Flanger, EQ, Compression เป็นต้น
- การเชื่อมต่อ USB 2.0 รองรับการบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบ Real-Time
- การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น XLR, 1/4", RCA, MIDI เป็นต้น
ข้อดี
- มีเสียงคุณภาพดี
- ใช้งานง่าย
- มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- ราคาไม่แพง
ข้อเสีย
สรุป
Allen & Heath Qu-16 เป็นมิกเซอร์ดิจิตอลที่เหมาะสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ มีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ
เหมาะกับงานแบบไหน
Allen & Heath Qu-16 เหมาะกับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานต่างๆ ดังนี้
- งานบันทึกเสียง : เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ สามารถใช้บันทึกเสียงได้พร้อมกันหลายแหล่ง ช่วยให้งานบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
- งานมิกซ์เสียง : เหมาะสำหรับการปรับแต่งเสียงและมิกซ์เสียงให้สมบูรณ์แบบ มีฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- งานแสดงสด : สามารถใช้เป็นมิกเซอร์สำหรับงานแสดงสดได้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วยให้งานแสดงสดมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Allen & Heath Qu-16 ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอ เพราะมีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน
5.Midas M32 LIVE

Midas M32 LIVE เป็นมิกเซอร์ดิจิตอล 32 ช่องสัญญาณ ที่มีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ
รูปแบบ : Digital พร้อม หน้าจอบอร์ด
ช่องเสียบ : 40 แชลแนล
อินพุท : ช่อง XLR 32 ช่อง mic-preamp (เป็นของ Midas Pro™ )
ช่อง Jack 6.35 mm 6 ช่อง
ช่อง RCA 2 ช่อง
เอ้าท์พุท : ช่อง XLR 16 ช่อง
ช่อง Jack 6.35 mm 6 ช่อง
ช่อง RCA 2 ช่อง

รายละเอียดเพิ่มเติม
- จำนวนช่องสัญญาณ : 32 ช่องสัญญาณ ประกอบด้วย
- ช่องสัญญาณไมโครโฟน 24 ช่อง รองรับ XLR
- ช่องสัญญาณไลน์ 8 ช่อง รองรับ XLR-1/4" Combo
ฟีเจอร์
-
- อีควอไลเซอร์ 3-Band แบบ parametric บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- คอมเพรสเซอร์แบบ SSL บนช่องสัญญาณไมโครโฟนและไลน์
- อีเฟกต์ต่างๆ เช่น Delay, Reverb, Chorus, Flanger, EQ, Compression เป็นต้น
- การเชื่อมต่อ USB 2.0 รองรับการบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบ Real-Time
- การเชื่อมต่ออื่นๆ เช่น XLR, 1/4", RCA, MIDI เป็นต้น
ข้อดี
- มีเสียงคุณภาพดี
- ใช้งานง่าย
- มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่
- รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย
ข้อเสีย
- ราคาค่อนข้างสูง
- การใช้งานไม่เหมาะกับผู้ใช้ใหม่
สรุป
Midas M32 LIVE เป็นมิกเซอร์ดิจิตอลที่เหมาะสำหรับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ มีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอและงานแสดงสด
เหมาะกับงานแบบไหน
Midas M32 LIVE เหมาะกับงานบันทึกเสียงและมิกซ์เสียงแบบมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานต่างๆ ดังนี้
- งานบันทึกเสียง : เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงจากแหล่งต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ สามารถใช้บันทึกเสียงได้พร้อมกันหลายแหล่ง ช่วยให้งานบันทึกเสียงมีประสิทธิภาพและสะดวกยิ่งขึ้น
- งานมิกซ์เสียง : เหมาะสำหรับการปรับแต่งเสียงและมิกซ์เสียงให้สมบูรณ์แบบ มีฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน เช่น อีควอไลเซอร์ คอมเพรสเซอร์ อีเฟกต์ต่างๆ ช่วยให้ปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียด
- งานแสดงสด : สามารถใช้เป็นมิกเซอร์สำหรับงานแสดงสดได้ รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไมโครโฟน กีตาร์ เบส เครื่องดนตรีอื่นๆ ช่วยให้งานแสดงสดมีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Midas M32 LIVE ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามิกเซอร์คุณภาพดีสำหรับงานสตูดิโอและงานแสดงสด เพราะมีเสียงคุณภาพดี ใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ ครบครัน