เมื่อทีมของคุณมีขนาดใหญ่กว่าที่ระบบอินเตอร์คอมชุดเดียวจะรองรับได้ Saramonic WiTalk9 ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถนำระบบ 2 ชุด (หรือมากกว่า) มาต่อพ่วงเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า "Cascade" เพื่อขยายวงสนทนาให้รองรับทีมงานได้สูงสุดถึง 17-18 คน บทความนี้จะอธิบายวิธีการทำอย่างละเอียดครับ
การทำ Cascade คือการเชื่อมโยงระบบ WiTalk9 สองระบบเข้าด้วยกัน ทำให้ Master Headset และ Remote Headset ทั้งหมดจากทั้งสองระบบ สามารถสื่อสารหากันได้อย่างอิสระในกลุ่มสนทนากลุ่มเดียว เหมาะสำหรับงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่, งานถ่ายทำภาพยนตร์, หรืออีเวนต์ที่มีทีมงานหลายฝ่ายและต้องการการประสานงานที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด
Saramonic WiTalk9 2 ชุด: คุณต้องมีระบบหูฟัง WiTalk9 ที่ทำงานสมบูรณ์ 2 ระบบ (System A และ System B) โดยแต่ละชุดต้องมี Master Headset และ Remote Headset ของตัวเอง
สายสำหรับต่อพ่วง (Cascading Cable): โดยปกติจะเป็นสายเชื่อมต่อเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันนี้ อาจเป็นสาย TRRS หรือสาย USB-C ที่ระบุไว้ในคู่มือ (สำหรับบางรุ่นอาจต้องซื้อแยกเป็นอุปกรณ์เสริม)
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมความพร้อมของแต่ละระบบ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า WiTalk9 ทั้ง 2 ระบบ (System A และ System B) ได้ทำการจับคู่ (Pairing) ภายในชุดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว และสามารถสื่อสารกันได้ปกติ
ชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟังทุกตัวให้เต็ม เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งานที่ยาวนาน
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดหูฟังที่จะใช้เป็น "สะพานเชื่อม"
จาก System A ให้ใช้ Master Headset (M)
จาก System B ให้เลือก Remote Headset (R) มา 1 ตัว
หูฟัง 2 ตัวนี้ จะทำหน้าที่เป็น "สะพาน" เพื่อเชื่อมการสื่อสารของทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อด้วยสาย Cable
นำสายสำหรับต่อพ่วง (Cascading Cable) มาเสียบเข้าที่พอร์ตเชื่อมต่อ (Link Port) ของหูฟังทั้งสองตัว คือจาก Master Headset (System A) ไปยัง Remote Headset (System B)
ขั้นตอนที่ 4: เปิดใช้งานโหมด Cascade
ที่หูฟัง ทั้งสองตัวที่เชื่อมต่อสายอยู่ (Master A และ Remote B) ให้กดปุ่ม Noise Cancellation (ENC) ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที
คุณอาจจะได้ยินเสียงสัญญาณแจ้งเตือน หรือเห็นไฟสถานะเปลี่ยนไป (เช่น เป็นสีม่วง) ซึ่งเป็นการยืนยันว่า "Cascade Mode" ได้เริ่มทำงานแล้ว
ขั้นตอนที่ 5: ทดสอบการสื่อสาร
เมื่อทำสำเร็จ ผู้ใช้งานทั้งหมดจาก System A (สูงสุด 9 คน) จะสามารถพูดคุยสื่อสารกับผู้ใช้งานทั้งหมดของ System B (สูงสุด 9 คน) ได้ทันที รวมเป็นวงสนทนาขนาดใหญ่ที่รองรับทีมงานได้สูงสุดถึง 18 คน
ผู้ใช้งานสูงสุด: การเชื่อมต่อ 2 ระบบแบบ 9 คน จะทำให้คุณมีผู้ใช้งานที่สื่อสารพร้อมกันได้สูงสุดถึง 17-18 คน
ตรวจสอบรุ่น: ขั้นตอนและประเภทของสายเคเบิล อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างรุ่น WiTalk9 และ WiTalk9 SE ควรตรวจสอบคู่มือที่มากับผลิตภัณฑ์ของคุณอีกครั้งเพื่อความถูกต้องครับ
ตำแหน่งการวาง: Remote Headset ที่ใช้เป็นสะพานเชื่อม (จาก System B) จะต้องเชื่อมต่อกับ Master Headset (จาก System A) ด้วยสายเคเบิลตลอดเวลา ควรวางแผนตำแหน่งการใช้งานให้ดี เพื่อไม่ให้สายเกะกะการทำงานครับ
นอกจากขั้นตอนวิธีการต่อพ่วง (How-to) แล้ว นี่คือหัวข้ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและควรมีเพิ่มเติมในบทความ เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานจริงครับ
ส่วนนี้จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจหลักการทำงานและวางแผนการใช้งานในสถานการณ์จริงได้ดีขึ้นครับ
การจัดการระยะสัญญาณ (Range Management): ควรเน้นย้ำว่า "การต่อพ่วงไม่ได้เพิ่มระยะสัญญาณของหูฟังแต่ละตัว" ระยะการสื่อสารของ Remote Headset แต่ละตัวยังคงขึ้นอยู่กับระยะห่างจาก Master Headset ในกลุ่มของตัวเอง ครับ
ตัวอย่าง: Remote จาก System A ที่อยู่ไกลจาก Master A เกิน 400 เมตร ก็จะยังหลุดจากสัญญาณ ถึงแม้จะอยู่ใกล้ Master B ก็ตาม การวางตำแหน่งของ Master Headset ทั้งสองตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญครับ
การวางตำแหน่ง "สะพานเชื่อม" (Positioning the Bridge): แนะนำให้วางหูฟัง 2 ตัวที่ใช้ต่อสายเชื่อมกัน (Master A และ Remote B) ไว้ในบริเวณ จุดกึ่งกลางของพื้นที่ทำงาน เพื่อให้การกระจายสัญญาณไปยังผู้ใช้ทั้งหมดในทั้งสองระบบมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
โปรโตคอลการสื่อสารในทีมขนาดใหญ่ (Large Team Communication Protocol): เมื่อมีผู้ใช้งาน 10-18 คน การพูดพร้อมกันอาจสร้างความสับสนได้ ควรแนะนำให้มีการตั้ง "โปรโตคอล" หรือข้อตกลงในการสื่อสารง่ายๆ เช่น
กำหนด "ผู้ควบคุมหลัก" (Overall Leader) ที่มีสิทธิ์ในการสั่งการหลัก
การเรียกชื่อทีมหรือบุคคลก่อนพูด เพื่อให้รู้ว่ากำลังสื่อสารกับใคร
การใช้คำว่า "ว่าง" หรือ "Clear" เพื่อแจ้งว่าพูดจบแล้ว
ส่วนนี้จะช่วยตอบคำถามที่ผู้ใช้อาจพบเจอเมื่อทำการต่อพ่วงระบบด้วยตัวเองครับ
Q: เชื่อมต่อสายและเปิดโหมด Cascade แล้ว แต่ไม่ได้ยินเสียงจากอีกระบบหนึ่ง?
A: ให้ตรวจสอบว่าได้กดเปิดโหมด Cascade ที่หูฟังทั้ง 2 ตัว ที่เชื่อมสายอยู่หรือไม่ / ลองถอดสายและเสียบใหม่อีกครั้งให้แน่น / ตรวจสอบว่าหูฟัง Remote ที่นำมาเชื่อมต่อ (จาก System B) ยังคงเชื่อมต่อกับ Master B ของตัวเองอยู่ปกติ
Q: มีเสียงสะท้อนหรือเสียงดีเลย์เกิดขึ้น?
A: อาจเกิดจากการที่หูฟัง Master A และ Remote B ที่เป็นสะพานเชื่อม วางอยู่ใกล้กันเกินไป ลองแยกออกจากกันเล็กน้อย หรือลองลดระดับเสียงของหูฟัง 2 ตัวนั้นลงเล็กน้อยครับ
Q: สามารถต่อพ่วงมากกว่า 2 ระบบได้หรือไม่?
A: สำหรับ Saramonic WiTalk9 โดยทั่วไปแนะนำให้ต่อพ่วง 2 ระบบ (สูงสุด 18 คน) เพื่อความเสถียรสูงสุด อย่างไรก็ตาม สำหรับระบบอินเตอร์คอมบางรุ่น (เช่น ระบบที่ใช้ HUB) อาจรองรับการต่อพ่วงได้มากกว่านี้ ควรตรวจสอบข้อมูลจำเพาะในคู่มือของผลิตภัณฑ์อีกครั้งครับ
Q: จำเป็นต้องใช้สายของ Saramonic เท่านั้นหรือไม่?
A: แนะนำให้ใช้สายต่อพ่วง (Cascading Cable) ของแท้จาก Saramonic เพื่อประสิทธิภาพและความเข้ากันได้สูงสุด การใช้สายอื่นที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้การเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์หรือคุณภาพเสียงลดลงได้ครับ