สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่น้องสาย Production และ Creator ทุกท่าน! วันนี้เราจะมาคุยกันแบบ "เจาะลึกแต่สนุก" ในหัวข้อที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหู หรือเคยเห็นผ่านตาเวลาเลือกซื้ออุปกรณ์ถ่ายทำ นั่นก็คือเรื่องของ Sensor NXCAM และเจ้ากล้อง Camcorder ตัวเก่งนั่นเองครับ เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมกล้องวิดีโอหน้าตาบึกบึนเหล่านี้ถึงยังครองใจมืออาชีพ? แล้วเซนเซอร์ข้างในมันต่างจากกล้อง Mirrorless ทั่วไปยังไง? วันนี้ผมจะพาไปหาคำตอบกันแบบจัดเต็ม ให้หายข้องใจกันไปเลย!
ก่อนจะไปถึงเรื่องเซนเซอร์ เราต้องปูพื้นฐานกันก่อนครับ คำว่า Camcorder มาจากการผสมคำว่า Camera (กล้อง) และ Recorder (เครื่องบันทึก) เข้าด้วยกัน ในอดีตกล้องโทรทัศน์ต้องต่อสายระโยงระยางเข้าเครื่องบันทึกเทปแยกต่างหาก แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น เราสามารถรวมทั้งสองส่วนไว้ในบอดี้เดียวได้ นั่นคือจุดกำเนิดของ Camcorder ครับ
แม้ว่าปัจจุบันกล้อง DSLR หรือ Mirrorless จะถ่ายวิดีโอได้สวยงามมาก แต่ Camcorder ก็ยังเป็น "The King" ในงาน Event, งานข่าว, งานสารคดี และงาน Broadcast เพราะ:
เมื่อพูดถึง NXCAM นี่คือชื่อ Series ของกล้องระดับมืออาชีพ (Professional Camcorder) จากค่าย Sony ครับ โดย NXCAM ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ในกลุ่ม Entry-to-Mid Level Professional คืออยู่สูงกว่า Handycam (กล้องบ้าน) แต่อาจจะรองลงมาจากตระกูล XDCAM ในแง่ของ Codec และราคาในอดีต แต่ปัจจุบันเส้นแบ่งนี้เริ่มจางลงเพราะ NXCAM รุ่นใหม่ ๆ ก็เก่งมาก ๆ
จุดเด่นของ NXCAM คือการใช้ระบบการบันทึกแบบไฟล์ดิจิทัล (Memory Card) ที่เน้นความคล่องตัว ใช้ Codec อย่าง AVCHD (ในยุคแรก) และพัฒนามาเป็น XAVC S ในปัจจุบัน ซึ่งให้คุณภาพสูงแต่ขนาดไฟล์จัดการง่าย เหมาะกับงาน Event Wedding หรืองาน Corporate Video ครับ
มาถึงหัวใจสำคัญครับ! หลายคนถามว่า "Sensor NXCAM Camcorder คืออะไร?" ต้องอธิบายแบบนี้ครับว่า NXCAM ไม่ใช่ชื่อประเภทของเซนเซอร์โดยตรง (เช่น CCD หรือ CMOS) แต่เป็นชื่อระบบกล้อง ซึ่งภายในกล้องตระกูล NXCAM นั้น Sony จะเลือกใช้ Image Sensor เกรดท็อปคลาสมาใส่ไว้
ในกล้อง Camcorder ตระกูล NXCAM ยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะใช้เซนเซอร์แบบ Exmor R CMOS หรือ Exmor RS CMOS ซึ่งมีความพิเศษดังนี้:
NXCAM มีตั้งแต่เซนเซอร์ขนาด 1/3 นิ้ว (ในรุ่นเก่า) มาจนถึงขนาด 1.0-type (1 นิ้ว) ที่เป็นมาตรฐานใหม่ ซึ่งให้ระยะชัดลึก (Depth of Field) ที่สวยงาม เบลอหลังได้มากกว่ากล้องวิดีโอรุ่นเก่า และยังมีรุ่นที่เป็น Super 35mm สำหรับงานที่ต้องการฟีลลิ่งภาพยนตร์ (Cinematic)
ใน Sensor NXCAM รุ่นใหม่ ๆ จะใช้โครงสร้างแบบ Stacked CMOS ซึ่งช่วยให้อ่านข้อมูลได้รวดเร็วมาก ลดอาการ Rolling Shutter (ภาพย้วยเวลาแพนกล้องเร็ว ๆ) และรองรับการถ่าย Slow Motion ได้อย่างยอดเยี่ยม
ดังนั้น เมื่อเราพูดถึง Sensor NXCAM เรากำลังหมายถึง "เทคโนโลยีเซนเซอร์รับภาพประสิทธิภาพสูง (High-Performance CMOS) ที่ถูกปรับจูนมาเพื่อการถ่ายวิดีโอแบบต่อเนื่องโดยเฉพาะ ซึ่งบรรจุอยู่ในบอดี้กล้องตระกูล NXCAM" นั่นเองครับ
ทำไมช่างภาพวิดีโอถึงไว้ใจ Camcorder ตระกูลนี้? คำตอบอยู่ที่โครงสร้างของเซนเซอร์ครับ
เซนเซอร์ทั่วไปจะมีแผงวงจรบังอยู่ด้านหน้าตัวรับแสง ทำให้รับแสงได้ไม่เต็มที่ แต่เทคโนโลยี Back-Illuminated ของ Sony ได้ย้ายแผงวงจรไปไว้ด้านหลัง ทำให้ตัวรับแสง (Photodiode) รับแสงได้เต็ม ๆ ผลลัพธ์คือ:
ขั้นกว่าของ Exmor R คือ Exmor RS ที่มีการซ้อนเลเยอร์ของวงจรประมวลผลไว้ใต้พิกเซลโดยตรง ทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วปรู๊ดปร๊าด! นี่คือเหตุผลที่กล้อง Sensor NXCAM Camcorder รุ่นใหม่ ๆ สามารถทำ Phase Detection Autofocus (โฟกัสไวแบบกล้องภาพนิ่ง) ได้อย่างแม่นยำนั่นเอง
นอกจากเรื่อง Sensor NXCAM แล้ว ความเป็น Professional Camcorder ยังมีองค์ประกอบอื่นที่ทำงานร่วมกับเซนเซอร์เพื่อให้ได้งานคุณภาพสูงสุด:
| ฟีเจอร์ (Feature) | ประโยชน์ต่องานวิดีโอ |
|---|---|
| Built-in ND Filter | ตัดแสงส่วนเกินได้ทันที ไม่ต้องหมุนฟิลเตอร์หน้าเลนส์ ช่วยให้ใช้รูรับแสงกว้างได้แม้แดดจัด |
| XLR Audio Inputs | ต่อไมค์คุณภาพสูงระดับ Professional ได้โดยตรง เสียงใส ไร้สัญญาณรบกวน |
| Dual SD Card Slots | ใส่เมมโมรี่การ์ดได้ 2 ช่อง จะบันทึกต่อเนื่อง (Relay) หรือบันทึกสำรอง (Backup) ก็อุ่นใจ |
| Hybrid Log-Gamma (HLG) | รองรับการถ่าย HDR (High Dynamic Range) ให้ภาพที่มีมิติ แสงเงาสมจริง |
เพื่อตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่อาจจะมีข้อสงสัยแบบเร่งด่วน ผมรวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาให้ครับ (ส่วนนี้รองรับ AEO ให้ Google รักด้วยนะ!)
A: ความแตกต่างหลักอยู่ที่ การควบคุมและคุณภาพไฟล์ ครับ NXCAM ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพ มีปุ่ม Manual ครบครัน มีช่องต่อไมค์ XLR และเซนเซอร์ที่มักจะมีขนาดใหญ่กว่าหรือเกรดดีกว่า (เช่น 1.0-type Sensor) รวมถึงรองรับการถ่ายแบบ Long-form โดยความร้อนไม่ขึ้น ในขณะที่ Handycam เน้นความง่ายในการใช้งานและพกพาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปครับ
A: เซนเซอร์ขนาด 1.0-type มีพื้นที่รับแสงมากกว่าเซนเซอร์ขนาด 1/3 หรือ 1/2 นิ้ว แบบเดิม ๆ ถึงหลายเท่าตัว ทำให้:
1. ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่ามาก (Low Light Performance)
2. ทำหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh) ได้สวยงามกว่า
3. มี Dynamic Range กว้างกว่า เก็บรายละเอียดส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีครับ
A: ขึ้นอยู่กับลักษณะงานครับ
- เลือก Camcorder (NXCAM) ถ้างานของคุณคือ Event ยาว ๆ, สัมมนา, งานข่าว หรือสารคดีที่ต้องความคล่องตัว แบตอึด และระบบเสียงจบในตัว
- เลือก Mirrorless ถ้าเน้นงาน Production ที่ต้องการ Look แบบภาพยนตร์ (Cinematic) มาก ๆ, การเปลี่ยนเลนส์หลากหลาย หรือถ่ายในที่มืดสนิทจริง ๆ (Full Frame อาจจะได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในจุดนี้)
สรุปแล้ว "Sensor NXCAM Camcorder" คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนกล้องวิดีโอตระกูล NXCAM ให้กลายเป็นเครื่องมือทำมาหากินที่เชื่อถือได้ที่สุดตัวหนึ่งในวงการครับ ด้วยเทคโนโลยี Exmor RS CMOS ที่ให้ทั้งความเร็วและความคมชัด ผสานกับบอดี้แบบ Camcorder ที่ออกแบบมาเพื่องานวิดีโอโดยเฉพาะ ทำให้มันยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับช่างภาพ Event และสายข่าว
หากคุณกำลังมองหากล้องที่ "ไว้ใจได้" ถ่ายยาวไม่ตัด โฟกัสแม่น และจัดการเรื่องเสียงได้จบในตัว กล้องที่มี Sensor NXCAM คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้ามครับ!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจของเพื่อน ๆ ได้นะครับ หากใครมีคำถามเพิ่มเติม หรืออยากแชร์ประสบการณ์การใช้ NXCAM รุ่นไหน คอมเมนต์มาคุยกันได้เลย!
อ้างอิงข้อมูลทางเทคนิค: Sony Professional Camcorders Official Page
icamplus 0946364541(คุณเอก)