Video Encoder สำคัญยังไงกับงานมืออาชีพ
Video encoder คือ เป็นอุปกรณ์หรือซอฟต์แวร์ที่มีความสำคัญในกระบวนการการถ่ายทอดวิดีโอ (video streaming) หรือการบันทึกวิดีโอดิจิทัล เพื่อทำให้ข้อมูลวิดีโอนั้นๆ สามารถถูกจัดเก็บหรือถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงสุด นอกจากนี้ มีหลายประการที่ video encoder มีความสำคัญ:
-
การลดขนาดไฟล์ (Compression): Video encoder ช่วยลดขนาดของไฟล์วิดีโอโดยใช้เทคนิคการบีบอัด (compression) เพื่อลดขนาดข้อมูลที่ต้องถูกส่งหรือจัดเก็บ ทำให้สามารถถ่ายทอดได้ไวขึ้นและใช้พื้นที่จัดเก็บน้อยลง
-
คุณภาพวิดีโอ (Video Quality): Video encoder มีบทบาทสำคัญในการสร้างวิดีโอที่มีคุณภาพสูง โดยการใช้วิธีการบีบอัดที่ไม่สูญเสียมากของความคมชัดและรายละเอียดของภาพ
-
การถ่ายทอดสด (Live Streaming): ในกรณีที่มีการถ่ายทอดสด (live streaming) การใช้ video encoder ที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความล่าช้า (latency) และส่งต่อข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รองรับรูปแบบและคุณลักษณะต่างๆ: Video encoder ต่างๆ สามารถรองรับรูปแบบไฟล์และคุณลักษณะต่างๆ ของวิดีโอ เช่น ความละเอียด (resolution), อัตราเฟรม (frame rate), และระดับความละเอียด (bitrate) ที่หลากหลาย
- การปรับแต่ง (Fine-tuning): Video encoder ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการบีบอัดและการประมวลผลวิดีโอได้ตามความต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ
Video Encoder มีความสำคัญต่อการใช้งานต่างๆ มากมาย เช่น
- การบันทึกและเผยแพร่วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต เช่น YouTube, Facebook, Netflix เป็นต้น
- การสตรีมวิดีโอแบบสด เช่น การประชุมทางไกล ไลฟ์สตรีมเกม เป็นต้น
- การบันทึกและจัดเก็บวิดีโอ เช่น กล้องวงจรปิด กล้องวิดีโอ เป็นต้น
Video Encoder ทำงานโดยอาศัยอัลกอริทึมการบีบอัดข้อมูล ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- Lossy compression เป็นอัลกอริทึมที่ยอมสูญเสียข้อมูลบางส่วนเพื่อให้ได้ไฟล์ที่มีขนาดเล็กลง อัลกอริทึมประเภทนี้นิยมใช้สำหรับการบันทึกและเผยแพร่วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากสามารถลดขนาดไฟล์ลงได้อย่างมากโดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของวิดีโอมากนัก
- Lossless compression เป็นอัลกอริทึมที่รักษาข้อมูลทั้งหมดไว้โดยไม่สูญเสียข้อมูลใดๆ อัลกอริทึมประเภทนี้นิยมใช้สำหรับการบันทึกและจัดเก็บวิดีโอ เช่น กล้องวงจรปิด กล้องวิดีโอ เป็นต้น
ประสิทธิภาพของ Video Encoder นั้นวัดได้จากปัจจัยต่างๆ เช่น
- อัตราบิต คือขนาดของไฟล์วิดีโอต่อวินาที ยิ่งอัตราบิตสูง คุณภาพของวิดีโอก็จะยิ่งดีขึ้น แต่ไฟล์ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
- คุณภาพของวิดีโอ หมายถึงความคมชัด สีสัน และรายละเอียดของวิดีโอ ยิ่งคุณภาพของวิดีโอสูง ไฟล์ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
- ความเร็วในการเข้ารหัส หมายถึงระยะเวลาในการแปลงสัญญาณวิดีโอดิจิตอลให้เป็นรูปแบบที่ต้องการ ยิ่งความเร็วในการเข้ารหัสสูง วิดีโอก็จะสามารถเผยแพร่หรือจัดเก็บได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ข้อแนะนำในการเลือกใช้ Video Encoder ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ประเภทการใช้งาน ว่าต้องการใช้สำหรับการใช้งานประเภทใด เช่น การบันทึกและเผยแพร่วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต การสตรีมวิดีโอแบบสด การบันทึกและจัดเก็บวิดีโอ เป็นต้น
- คุณภาพของวิดีโอที่ต้องการ ว่าต้องการคุณภาพของวิดีโอระดับใด เช่น ต้องการความละเอียดสูง สีสันสดใส หรือต้องการเน้นความคมชัดของภาพ เป็นต้น
- ขนาดไฟล์ที่ต้องการ ว่าต้องการไฟล์ที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เพียงใด
- ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีทรัพยากรเพียงพอสำหรับการเข้ารหัสวิดีโอหรือไม่
จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น สามารถแบ่งประเภทของ Video Encoder ได้ดังนี้
- Hardware encoder เป็น Video Encoder ที่ทำงานโดยใช้ฮาร์ดแวร์ เช่น ชิปกราฟิกหรือหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) โดยทั่วไปแล้ว Hardware encoder จะมีความเร็วในการเข้ารหัสที่สูงกว่า Software encoder แต่ก็มีราคาสูงกว่าเช่นกัน
- Software encoder เป็น Video Encoder ที่ทำงานโดยใช้ซอฟต์แวร์ เช่น โปรแกรมตัดต่อวิดีโอหรือโปรแกรมสตรีมวิดีโอ โดยทั่วไปแล้ว Software encoder จะมีราคาถูกกว่า Hardware encoder แต่ก็มีความเร็วในการเข้ารหัสที่ต่ำกว่าเช่นกัน
สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การบันทึกและเผยแพร่วิดีโอบนอินเทอร์เน็ต การสตรีมวิดีโอแบบสด แนะนำให้ใช้ Hardware encoder เนื่องจากสามารถลดเวลาในการเข้ารหัสและช่วยให้วิดีโอมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ก็สามารถเลือกใช้ Software encoder แทนได้
สำหรับการใช้งานที่ต้องการคุณภาพของวิดีโอสูง เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง แนะนำให้ใช้ Hardware encoder ร่วมกับการตั้งค่าอัตราบิตสูง ซึ่งจะช่วยให้ได้วิดีโอที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
สำหรับการใช้งานที่ต้องการไฟล์ที่มีขนาดเล็ก เช่น การบันทึกวิดีโอสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ แนะนำให้ใช้ Software encoder ร่วมกับการตั้งค่าอัตราบิตต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ได้วิดีโอที่มีขนาดเล็กลง แต่คุณภาพของวิดีโออาจลดลงบ้าง
สำหรับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพของอุปกรณ์สูง เช่น การบันทึกวิดีโอจากกล้องวงจรปิด แนะนำให้ใช้ Software encoder ร่วมกับการตั้งค่าอัตราบิตที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถบันทึกวิดีโอได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้อุปกรณ์ทำงานหนักจนเกินไป
ตัวอย่าง Video Encoder ที่ได้รับความนิยม ได้แก่
- Hardware encoder
- NVENC (NVIDIA)
- QuickSync (Intel)
- AMD VCE (AMD)
- Software encoder