เปรียบเทียบ Video Wireless 5 อันดับ ในปี 2024

เปรียบเทียบ Video Wireless 5 อันดับ ในปี 2024

ปัจจุบันการใช้งานวิดีโอส่งภาพแบบไร้สายเริ่มมีมากขึ้น เนื่องจากความสะดวกสบายที่ไม่ต้องมากังวลกับการลากสายสัญญาณ การใช้งานที่คล่องตัวมากขึ้น ตัวส่งภาพไร้สายวิดีโอมีระยะส่งได้ไกลมากขึ้น และในปี 2024 นี้ มีหลายแบรนด์ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ออกมา วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำและเปรียบเทียบให้เห็นข้อดี-ข้อสังเกตของแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นกันครับ

ในการเปรียบเทียบครั้งนี้จะเลือกจากตัวรับส่งภาพไร้สายที่ใช้ระบบ Dual Band (2.4Ghz + 5Ghz) ซึ่งเป็นระบบการส่งสัญญาณที่กำลังได้ความนิยมในปัจจุบันนี้



การเลือกซื้อ ควร มองปัจจัยอะไรดี

ในการเลือกซื้ออุปกรณ์ Video Wireless สำหรับการใช้งานในปี 2024 มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการของงานและมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้:

1. ระยะการส่งสัญญาณ (Transmission Range)

• ควรพิจารณาว่าคุณต้องการระยะการส่งสัญญาณไกลแค่ไหนในการใช้งาน
• ถ้าคุณถ่ายทำในสตูดิโอหรือสถานที่เล็ก ๆ อุปกรณ์ที่มีระยะ 100-300 เมตรก็เพียงพอ
• แต่ถ้าคุณถ่ายทำกลางแจ้ง, งานอีเวนต์ใหญ่, หรือในพื้นที่ที่กว้างขึ้น เช่น ภาพยนตร์หรือถ่ายทอดสด คุณควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระยะการส่งสัญญาณไกลกว่า 500 เมตรขึ้นไป เช่น DJI Transmission

2. ประเภทการเชื่อมต่อ (SDI/HDMI)

• ตรวจสอบว่ากล้องหรืออุปกรณ์ของคุณใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบใด
• หากคุณใช้กล้องที่มีเฉพาะพอร์ต HDMI เช่น DSLR หรือ Mirrorless ควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับ HDMI เช่น Hollyland Pyro H หรือ Vaxis Atom 600 HDMI
• ถ้าคุณต้องการใช้งานกับกล้องมืออาชีพที่มีพอร์ต SDI หรือใช้ทั้ง SDI และ HDMI ควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับทั้งสองพอร์ต เช่น Accsoon Cineview 2 SDI หรือ Hollyland Pyro S

3. ความละเอียดและคุณภาพของวิดีโอ (Video Quality & Resolution)

• ดูความละเอียดที่อุปกรณ์รองรับ เช่น 1080p หรือ 4K หากคุณต้องการความละเอียดสูงควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับการส่งสัญญาณ 4K เช่น Hollyland Pyro H
• พิจารณาการส่งสัญญาณที่รองรับ HDR หากคุณถ่ายทำเนื้อหาที่ต้องการคุณภาพสีที่สูง เช่น DJI Transmission

4. ความหน่วงเวลา (Latency)

• หากคุณต้องการการซิงโครไนซ์แบบเรียลไทม์ระหว่างกล้องและจอมอนิเตอร์ เช่น ในการถ่ายทอดสด ความหน่วงต่ำเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีการหน่วงเวลาต่ำกว่า 100ms หรือน้อยกว่านั้น เช่น DJI Transmission (ต่ำกว่า 20ms) หรือ Hollyland Pyro S
• สำหรับงานถ่ายทำที่ไม่ต้องการความซิงโครไนซ์แบบเรียลไทม์ เช่น การถ่ายวิดีโอเพื่อแก้ไขภายหลัง ความหน่วงเวลาไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญเท่ากับคุณภาพวิดีโอ

5. จำนวนผู้รับสัญญาณพร้อมกัน (Multiple Receiver Capability)

• หากต้องการส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์หลายจอพร้อมกัน เช่น ในการถ่ายทำที่ทีมงานต้องดูหลายมุมกล้อง ควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับการส่งสัญญาณไปยังผู้รับหลายคนพร้อมกัน เช่น Accsoon Cineview 2 SDI หรือ DJI Transmission

6. ความถี่และการแทรกแซงสัญญาณ (Frequency & Interference)

• พิจารณาว่าอุปกรณ์ใช้ความถี่อะไรในการส่งสัญญาณ (เช่น 2.4GHz, 5GHz) และความสามารถในการรับมือกับการแทรกแซงจากสัญญาณไร้สายอื่นๆ
• หากคุณทำงานในพื้นที่ที่มีคลื่นสัญญาณไร้สายมาก ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบรับมือกับการแทรกแซงและใช้คลื่นความถี่หลากหลาย เช่น Accsoon Cineview 2 SDI ที่ใช้ dual-band Wi-Fi

7. การรักษาความปลอดภัยของสัญญาณ (Signal Security)

• หากคุณทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยของสัญญาณ เช่น การถ่ายทอดสดงานสำคัญ ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบเข้ารหัสขั้นสูง เช่น DJI Transmission ที่มีระบบ AES 256-bit encryption

8. ความสะดวกในการพกพาและการติดตั้ง (Portability & Setup)

• เลือกอุปกรณ์ที่พกพาสะดวกและติดตั้งง่าย หากคุณต้องย้ายอุปกรณ์ไปในสถานที่ต่างๆ บ่อยๆ
• ควรคำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของอุปกรณ์ หากคุณต้องการความคล่องตัวสูง เช่น ในการถ่ายทำกลางแจ้ง หรืองานวิดีโอสำหรับสื่อออนไลน์

9. ราคา (Budget)

• ตั้งงบประมาณให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ อุปกรณ์บางชิ้น เช่น Vaxis Atom 600 HDMI มีราคาย่อมเยาและเหมาะกับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพคุ้มค่า แต่ถ้าคุณต้องการฟีเจอร์ระดับมืออาชีพ อาจต้องยอมจ่ายมากขึ้นสำหรับอุปกรณ์เช่น DJI Transmission

10. การรองรับการอัปเดตและการซ่อมบำรุง (Software Updates & Maintenance)

• เลือกอุปกรณ์จากแบรนด์ที่มีการสนับสนุนหลังการขายที่ดี มีการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ และสามารถหาอะไหล่หรือบริการซ่อมแซมได้ง่าย

สรุป:

การเลือกซื้ออุปกรณ์ Video Wireless ควรคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง ทั้งระยะการส่งสัญญาณ ความหน่วงเวลา ประเภทการเชื่อมต่อ และความละเอียดของวิดีโอ รวมถึงความต้องการเฉพาะของงาน เช่น ความปลอดภัยของสัญญาณและความสะดวกในการพกพา

Video Wireless เหมาะสมกับงานแบบไหนบ้าง

1.Accsoon Cineview 2 SDI

• เหมาะสมกับงาน: งานถ่ายทำภาพยนตร์, โฆษณา, และงานโปรดักชั่นที่ต้องใช้หลายกล้อง
• เหตุผล: รองรับทั้ง SDI และ HDMI ทำให้สามารถใช้งานได้กับกล้องหลากหลายประเภททั้งมืออาชีพและกึ่งมืออาชีพ พร้อมรองรับการส่งสัญญาณไปยังอุปกรณ์หลายตัวพร้อมกัน เหมาะสำหรับการใช้งานในทีมโปรดักชั่นที่ต้องการการส่งภาพแบบ multicasting
• สถานการณ์ที่เหมาะสม: งานที่ต้องการการซิงค์ภาพระหว่างจอภาพหลายตัว เช่น การถ่ายโฆษณาหรือรายการทีวี

2. DJI Transmission (Standard Combo)

• เหมาะสมกับงาน: งานถ่ายทำภาพยนตร์และรายการทีวีระดับมืออาชีพที่ต้องการระยะการส่งสัญญาณไกลมากและการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง
• เหตุผล: ด้วยระยะการส่งสัญญาณที่ยาวถึง 6 กม. และการรองรับความละเอียด HDR จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องถ่ายทำในพื้นที่กว้าง เช่น งานถ่ายทำกลางแจ้ง, งานอีเวนต์ใหญ่ๆ, หรือการถ่ายทำที่ต้องการความปลอดภัยของสัญญาณสูง (เช่น งานถ่ายทอดสด)
• สถานการณ์ที่เหมาะสม: การถ่ายทอดสดกีฬา, งานคอนเสิร์ต, หรือถ่ายทำภาพยนตร์ในสภาพแวดล้อมขนาดใหญ่

3. Hollyland Pyro H

• เหมาะสมกับงาน: งานถ่ายทำทั่วไปที่ใช้กล้อง DSLR หรือ Mirrorless และไม่ต้องการการส่งสัญญาณในระยะไกล
• เหตุผล: รองรับเฉพาะ HDMI และสามารถส่งสัญญาณได้ระยะประมาณ 300 เมตร เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวและต้องการการส่งสัญญาณระดับสูงสำหรับกล้องที่มี HDMI เช่น งานถ่ายวิดีโองานแต่งงาน, วิดีโอบล็อกเกอร์, หรือถ่ายทำสื่อโซเชียล
• สถานการณ์ที่เหมาะสม: การถ่ายทำวิดีโอแบบคล่องตัว เช่น ถ่ายทำกิจกรรมเล็กๆ, งานสัมภาษณ์, หรือการถ่ายวิดีโอสำหรับคอนเทนต์ออนไลน์
  
  

4. Hollyland Pyro S

• เหมาะสมกับงาน: งานถ่ายทำที่ต้องการระยะการส่งสัญญาณไกลกว่า Pyro H และการเชื่อมต่อกับกล้องที่มี SDI หรือ HDMI
• เหตุผล: ด้วยระยะการส่งสัญญาณที่ไกลขึ้น (500 เมตร) และการรองรับทั้ง SDI และ HDMI ทำให้เหมาะกับงานถ่ายทำในสตูดิโอหรือการถ่ายทำนอกสถานที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้กล้องมืออาชีพและการส่งสัญญาณไกลขึ้น
• สถานการณ์ที่เหมาะสม: การถ่ายทำรายการทีวี, งานโฆษณาขนาดใหญ่ หรือถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในสถานที่กว้าง

5. Vaxis Atom 600 HDMI

• เหมาะสมกับงาน: งานถ่ายทำในสตูดิโอหรืองานถ่ายทำนอกสถานที่ที่ต้องการการส่งสัญญาณในราคาย่อมเยา
• เหตุผล: รองรับ HDMI เท่านั้นและมีระยะการส่งสัญญาณประมาณ 180 เมตร ทำให้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการคุณภาพดีในราคาย่อมเยาและไม่ต้องการระยะการส่งสัญญาณที่ไกลมาก
• สถานการณ์ที่เหมาะสม: งานถ่ายทำในสตูดิโอขนาดเล็ก, งานสัมภาษณ์ หรือการถ่ายทำวิดีโอสำหรับโปรเจกต์เล็กๆ เช่น การถ่ายทำสื่อออนไลน์

บทสรุป:

• Accsoon Cineview 2 SDI: เหมาะกับงานโปรดักชั่นที่ใช้หลายกล้องและต้องการการส่งสัญญาณที่มีความหลากหลาย
• DJI Transmission (Standard Combo): เหมาะกับงานที่ต้องการระยะไกลและความปลอดภัยสูง เช่น การถ่ายทำในสถานที่กว้างและการถ่ายทอดสด
• Hollyland Pyro H: เหมาะกับผู้ใช้งานกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ที่ต้องการความคล่องตัวในการถ่ายทำ
• Hollyland Pyro S: เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน SDI/HDMI และระยะการส่งสัญญาณไกล
• Vaxis Atom 600 HDMI: เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการระยะการส่งสัญญาณไกลและต้องการความคุ้มค่าทางราคาในงานถ่ายทำ