เปรียบเทียบ Wireless Intercom คลื่น 2.4 GHz

เปรียบเทียบ Wireless Intercom คลื่น 2.4 GHz

ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Intercom มีจำนวนมากขึ้นจากการใช้วิทยุสื่อสาร (ที่เราเรียก วอแดงหรือวอดำ) ที่เห็นตามทั่วไปในสมัยก่อนๆ หรือแม้กระทั่งก็ยังมีใช้อยู่บ้างในตอนนี้ แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า Wireless Intercom ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากมีความคล่องตัวในการใช้งาน มีเทคโนโลยีการสื่อสารแบบ Full Duplex (การสื่อสารแบบสองทิศทาง การรับ-ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน) ที่ดีกว่าเทคโนโลยีการสื่อสารของวิทยุสื่อสารที่เป็น Half Duplex (การสื่อสารกึ่งสองทิศทาง การส่งข้อมูลต้องผลัดกันส่งผลัดกันรับ)

แต่การใช้งาน Wireless Intercom ใช่ว่าเราจะเอามาใช้ได้เลย เพราะมีข้อควรระวังของการใช้ Wireless Intercom เหมือนกัน ซึ่ง Wireless Intercom บางยี่ห้อและบางรุ่นอาจมีการใช้คลื่นสำหรับสื่อสารที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ที่อาจจะไปรบกวนการใช้งานของอุปกรณ์อื่นๆได้ และสามารถนำไปสู่การฟ้องร้องกันได้

ในการเปรียบเทียบครั้งนี้เราได้เลือก Wireless Intercom จะเป็นรุ่นที่ใช้คลื่น 2.4 GHz (คลื่น Wi-Fi) ที่เป็นคลื่นที่ได้รับ อนุญาตจากทาง กสทช. แล้ว ดังนั้นสามารถวางใจได้ว่าตัวที่นำไปใช้จะมีปัญหาเรื่องคลื่นอนุญาตการใช้งาน

ในส่วนของคุณสมบัติหลักของ Intercom ที่ใช้คลื่น 2.4 GHz ที่ควรรู้

1.   การส่งสัญญาณไร้สาย: Intercom ที่ใช้ความถี่ 2.4 GHz ส่งสัญญาณแบบไร้สาย ทำให้สะดวกสำหรับการสื่อสารในพื้นที่ที่มีขนาดกว้างหรือในที่ที่การเดินสายสัญญาณอาจทำได้ยาก

2.   ระยะการใช้งาน: ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น หากมีสิ่งกีดขวางหรือมีสัญญาณรบกวนก็อาจส่งผลให้ระยะการใช้งานลดลง

3.   ประสิทธิภาพในการต้านทานสัญญาณรบกวน: คลื่น 2.4 GHz เป็นความถี่ที่ใช้กันแพร่หลาย (เช่น Wi-Fi) ดังนั้นโอกาสในการถูกรบกวนจากอุปกรณ์อื่นก็มีมากขึ้นเมื่อเทียบกับคลื่นความถี่ที่ไม่ค่อยมีการใช้งาน

Witalk9 SE เป็นระบบไมโครโฟนไร้สายดิจิทัลที่ออกแบบมาสำหรับการบันทึกเสียงและการออกอากาศแบบมืออาชีพ มีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้:

คุณสมบัติเด่น:

1. การส่งสัญญาณไร้สาย:

   • ใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz หรือ UHF เพื่อการส่งสัญญาณที่เสถียรและมีระยะทางที่ยาวสำหรับการใช้งานในหลายสภาพแวดล้อม

2. คุณภาพเสียง:

   • การส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง มีสัญญาณรบกวนน้อยและการบิดเบือนที่ต่ำ
   • เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงสัมภาษณ์ พรีเซนเทชั่น หรือการถ่ายทอดสด

3. ความเข้ากันได้:

   • สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น กล้อง DSLR, กล้องวิดีโอ, สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ทำให้เหมาะกับผู้สร้างเนื้อหาหลายประเภท

4. ระยะการส่งสัญญาณ:

   • มีระยะการส่งสัญญาณที่ยาว โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 100 เมตรหรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

5. อายุการใช้งานแบตเตอรี่:

   • มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงในพื้นที่ภาคสนามหรือในสตูดิโอเป็นเวลานาน

Witalk9 SE เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการบันทึกเสียงและการออกอากาศในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับการถ่ายทำวิดีโอระดับมืออาชีพที่ต้องการระบบเสียงไร้สายที่เสถียร




Solidcom SE เป็นระบบหูฟังสื่อสารไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารในทีมงานระดับมืออาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตูดิโอถ่ายทำ งานอีเวนต์ หรือการถ่ายทอดสด ที่ต้องการการประสานงานที่ราบรื่นแบบเรียลไทม์

คุณสมบัติหลัก:

1. การสื่อสารไร้สายแบบ Full Duplex:

   • Solidcom SE รองรับการสื่อสารแบบ Full Duplex ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถสื่อสารกันได้ทั้งสองทางพร้อมกัน (พูดและฟังได้ตลอดเวลา) โดยไม่มีการติดขัดของสัญญาณ

2. การใช้งานแบบไร้สาย:

   • ใช้คลื่นความถี่ 1.9GHz DECT เพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียร มีระยะการใช้งานครอบคลุมถึง 400 เมตรในพื้นที่เปิดโล่ง และมีความหน่วงต่ำ ทำให้เสียงส่งไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน

3. การออกแบบที่พกพาสะดวก:

   • หูฟังมีน้ำหนักเบาและสวมใส่สบาย มาพร้อมกับไมโครโฟนแบบบูมที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ และตัวบูมนี้สามารถหมุนเพื่อเปิด/ปิดไมโครโฟนได้ง่าย ๆ

4. รองรับการสื่อสารหลายผู้ใช้:

   • ระบบสามารถรองรับการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้หลายคนได้ (อาจมากถึง 9-10 คนขึ้นอยู่กับรุ่น) ซึ่งช่วยให้ทุกคนในทีมสามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน:

   • Solidcom SE มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องหลายชั่วโมง (ปกติ 6-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เมื่อหมดพลังงาน

การใช้งาน:

Solidcom SE เหมาะกับการทำงานเป็นทีมที่ต้องการการสื่อสารแบบเรียลไทม์ เช่น:

• ทีมงานในสตูดิโอถ่ายทำ
• ทีมงานด้านการผลิตวิดีโอและเสียง
• ทีมออร์แกไนเซอร์งานอีเวนต์ขนาดใหญ่
• ทีมที่ทำงานในสถานการณ์ที่ต้องการการประสานงานทันที เช่น งานถ่ายทอดสดหรือการแข่งขันกีฬา

Solidcom SE ช่วยให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังสะดวกสบายในการใช้งานในระยะเวลานาน

CoMo SE เป็นระบบการสื่อสารแบบไร้สายที่ใช้สำหรับการสื่อสารภายในทีมในงานที่ต้องการประสิทธิภาพและการประสานงานที่ดี เช่น การจัดการอีเวนต์ การถ่ายทำวิดีโอ การจัดงานคอนเสิร์ต หรืองานอุตสาหกรรมที่ต้องการการสื่อสารแบบเรียลไทม์

คุณสมบัติหลักของ CoMo SE:

1. การสื่อสารแบบ Full Duplex:

   • คล้ายกับระบบอื่นๆ เช่น Solidcom SE, CoMo SE รองรับการสื่อสารแบบ Full Duplex ที่ช่วยให้สามารถพูดและฟังได้พร้อมกัน ไม่มีความล่าช้า และไม่มีการขัดจังหวะ

2. การเชื่อมต่อไร้สาย:

   • ใช้คลื่นความถี่ที่ปลอดภัยและเสถียร เช่น DECT เพื่อให้การส่งสัญญาณมีความเสถียรและครอบคลุมระยะการใช้งานที่ยาวไกล ลดปัญหาการแทรกแซงจากสัญญาณอื่น ๆ เช่น Wi-Fi หรือ Bluetooth

3. การออกแบบเพื่อความสะดวกในการใช้งาน:

   • มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย และออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ซับซ้อน มีปุ่มปรับเสียงและปุ่มควบคุมการทำงานที่สะดวก

4. แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน:

   • แบตเตอรี่ใน CoMo SE รองรับการใช้งานได้ยาวนาน เหมาะกับการทำงานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการชาร์จบ่อยๆ

5. รองรับผู้ใช้งานหลายคน:

   • รองรับการเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานหลายคนได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์อย่างราบรื่นในงานที่ต้องการการประสานงานที่ดี

CoMo SE เหมาะกับการใช้งานในหลายสถานการณ์ที่ต้องการการสื่อสารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น:

• งานสื่อสารในสตูดิโอถ่ายทำ
• การจัดการอีเวนต์ขนาดใหญ่
• การจัดคอนเสิร์ตหรือการแสดงสด
• การจัดงานถ่ายทอดสด

CoMo SE ออกแบบมาเพื่อให้ทีมงานทำงานได้อย่างราบรื่นและสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการประสานงานและการตัดสินใจแบบเรียลไทม์

Synco X-Talk X5 เป็นระบบไมโครโฟนไร้สายที่เน้นการสื่อสารคุณภาพสูงสำหรับการถ่ายทำวิดีโอ การบันทึกเสียง และการออกอากาศแบบมืออาชีพ ระบบนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายทั้งในสตูดิโอและงานนอกสถานที่ โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายประการ ดังนี้:

คุณสมบัติหลักของ Synco X-Talk X5:

1. การสื่อสารไร้สายแบบ Full Duplex:

   • X-Talk X5 รองรับการสื่อสารแบบสองทางพร้อมกัน (Full Duplex) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องสลับการพูดและฟัง ทำให้สะดวกในการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองรวดเร็ว

2. การใช้งานในระยะไกล:

   • Synco X-Talk X5 สามารถทำงานในระยะไกลได้ถึงประมาณ 100 เมตรในพื้นที่เปิดโล่ง ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการการสื่อสารในระยะที่กว้าง

3. คุณภาพเสียงสูง:

   • ไมโครโฟนของ Synco X-Talk X5 มีความไวต่อเสียงสูง และลดเสียงรบกวนได้ดี ช่วยให้การบันทึกเสียงหรือการสนทนามีความคมชัดและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการบันทึกวิดีโอ การออกอากาศสด หรือการถ่ายทอดสดที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดี

4. ระบบแบตเตอรี่และการใช้งานที่ยาวนาน:

   • Synco X-Talk X5 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงต่อเนื่องหลายชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดกลางคัน

5. รองรับการเชื่อมต่อหลายผู้ใช้:

   • ระบบนี้รองรับการสื่อสารระหว่างผู้ใช้หลายคน ทำให้สามารถใช้ในสถานการณ์ที่มีทีมงานหลายคนต้องสื่อสารกันแบบเรียลไทม์ เช่น การถ่ายทำภาพยนตร์ การจัดอีเวนต์ หรือการทำงานเป็นทีมในสถานที่ใหญ่

การใช้งาน:

Synco X-Talk X5 เหมาะกับงานที่ต้องการการสื่อสารแบบมืออาชีพและมีคุณภาพเสียงสูง เช่น:

• การถ่ายทำวิดีโอ
• การออกอากาศหรือสตรีมมิ่งสด
• การทำงานเป็นทีมในสถานที่กว้าง
• การจัดอีเวนต์และงานแสดงสด

Synco X-Talk X5 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารและบันทึกเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยระบบไร้สายที่เสถียรและมีคุณภาพสูง

ตารางการเปรียบเทียบ Wireless Intercom คลื่น 2.4 GHz

สรุป

Intercom ที่ใช้คลื่น 2.4 GHz หลายๆแบรนด์เริ่มเปิดตัวกันมากขึ้น นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในกองถ่ายต่างๆ หรืองานอีเว้นท์ โดยการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ เช่น จำนวนผู้ใช้ที่ต้องการระยะการใช้งาน คุณสมบัติพิเศษของแต่ละยี่ห้อ ราคาที่ไม่สูงเกินไป และไม่ต้องกังวลเรื่องคลื่นจะผิด กสทช. แต่ก็ต้องระมัดระวังการใช้งานในสถานที่ ที่มีอุปกรณ์ไร้สายหรือเสาสัญญาณเยอะๆเช่นกัน แต่ถ้าผู้ใช้ใช้ในสถานที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก หรือสถานที่ปิดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ใช้งานครับ